ข้อความต้นฉบับในหน้า
9.6.2 ประเมินผู้ฟัง
พระภิกษุมีความจำเป็นต้องรู้จักประเมินผู้ฟัง เพื่อวัตถุประสงค์ 2 ประการ คือ
1) เพื่อวัดความเข้าใจของผู้ฟัง ในธรรมะที่ตนแสดงไป ว่ารู้ เข้าใจหรือไม่ เพียงใด หากยังเข้าใจ
ไม่ครบถ้วน หรือมีข้อสงสัย ก็จะได้อธิบายจนเกิดความเข้าใจ ซึ่งอาจประเมินผู้ฟังได้จากวิธีนี้ คือ
1. จากการสนทนา การตั้งคำถาม การฟังคำตอบจากผู้ฟัง
2. สังเกตจากกิริยา ท่าทาง ความสนใจของผู้ฟัง
3. ใช้แบบสอบถาม ใช้แบบทดสอบความเข้าใจ เป็นต้น
2) เพื่อพัฒนาผู้ฟัง จากบุคคลปโรปรัญญูที่แบ่งประเภทผู้ฟังไว้ 7 ประเภท นอกจากจะใช้ประโยชน์
ในการดูคนเป็นแล้ว ยังจะเป็นข้อมูลมาพัฒนาผู้ฟังให้มีความรู้และคุณธรรมในใจมากขึ้นไปตามลำดับ เช่น เมื่อ
รู้ว่า ผู้ฟังเป็นประเภทไม่อยากเห็นพระ (1) นอกจากจะแสดงธรรมให้เหมาะสมกับผู้ฟังแล้ว ต้องคิดพัฒนา
ผู้ฟังด้วย คือ พัฒนาจากประเภทไม่อยากเห็นพระ (1) ให้กลายเป็นอยากเห็นพระ (2) จากอยากเห็นพระ(2)
ต้องพัฒนาจนทำให้เป็นประเภทอยากฟังธรรม (3) พัฒนาผู้ฟังในรูปแบบนี้ไปจนถึงที่สุด คือ ผู้ฟังประเภทที่
ปฏิบัติธรรม เพื่อประโยชน์ของตนและผู้อื่น (7)
9.7 บทสรุปของการเป็นบุคคลปโรปรัญญ
จะต้อง
จากรายละเอียดที่ได้ศึกษามา พอจะสรุปในเบื้องต้นได้ว่า พระภิกษุผู้จะเป็นบุคคลปโรปรัญญูได้นั้น
1. ดูคนเป็น
2. สามารถนำธรรมะไปสั่งสอนได้เหมาะสมตามประเภทของคนนั้นๆ ได้
เมื่อพระภิกษุฝึกได้อย่างนี้แล้ว พระองค์จึงจะทรงรับรองว่า
“ภิกษุเป็นธัมมัญญู อัตถัญญู อัตตัญญู มัตตัญญู กาลัญญู ปริสัญญู บุคคลปโรปรัญญู ด้วย
ประการฉะนี้”
210 DOU แม่บท การฝึกอบรมในพระพุทธศาสนา