ข้อความต้นฉบับในหน้า
2. “ผู้ตอบคำถาม” ในที่นี้หมายถึงครูบาอาจารย์ หรือท่านผู้รู้ที่รู้จริง คือรู้ทั้งธรรมะที่พระสัมมา
สัมพุทธเจ้าสอนไว้ รู้ทั้งความหมายและเข้าใจถึงวิธีปฏิบัติที่ได้ผล และท่านต้องเป็นผู้ฝึกฝนอบรมตนเองมา
อย่างดีแล้ว ครูบาอาจารย์อย่างนี้ จึงจะเป็นผู้ที่เข้าใจถึงสิ่งที่ผู้ถามต้องการถาม และสามารถจะให้คำตอบ
ที่ชัดเจนกระจ่างดุจดั่งเห็นลายมือบนฝ่ามือตนเอง ดังนั้นการมีครูบาอาจารย์ที่สามารถแนะนำและช่วย
ขจัดความสงสัยให้ได้จึงมีความสำคัญอันยิ่งใหญ่สำหรับพระภิกษุที่มีเป้าหมายอยู่ที่การบรรลุมรรคผลนิพพาน
ดุจดังเช่นที่พระพุทธองค์ตรัสไว้ใน “เสนาสนสูตร” ซึ่งมีเนื้อหาโดยย่อดังนี้ คือ พระภิกษุที่ฝึกตนเองมาดีแล้ว
หากได้อยู่ในสถานที่ที่ประกอบด้วยสิ่งเหล่านี้ 5 ประการ ก็ย่อมจะบรรลุมรรคผลนิพพานภายในเวลาไม่นาน
คือ
1. ได้เสนาสนะที่เหมาะสม คือ สถานที่อาศัยที่ไม่ใกล้ไม่ไกลชุมชนนัก สงบเงียบเหมาะแก่
การบำเพ็ญสมณธรรม
2. ปัจจัย 4 หาได้ง่าย ไม่ลำบาก
3. ณ ที่นั้น มีพระเถระทั้งหลายที่เป็นพหูสูต ชำนาญในคัมภีร์ ทรงธรรม ทรงวินัย
4. พระภิกษุนั้นหมั่นเข้าไปสอบถามในหัวข้อธรรมต่างๆ กับท่าน
5. พระเถระเหล่านั้นอธิบายธรรมที่ยังไม่ได้อธิบาย และทำให้เข้าใจง่าย จนพระภิกษุนั้น
หายสงสัยในแต่ละหัวข้อธรรม
ด้วยปัจจัยดังกล่าวหัวข้อการสอบถามในกาลัญญนี้ จึงจำเป็นต้องมีครูบาอาจารย์ที่สามารถ
แนะนำธรรมะให้ได้ด้วย และการสอบถามนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อให้พระภิกษุมีคุณสมบัติเป็น “อัตถัญญู” ให้ยิ่งๆ
ขึ้นไป
3) การประกอบความเพียร หมายถึงการฝึกฝนอบรมตนเองในภาคปฏิบัติ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
หมายเอาการเจริญสมาธิภาวนา ซึ่งเป็นหัวใจของการฝึกฝนอบรมตนเองให้หลุดพ้นจากกิเลสอาสวะ
จากการศึกษาที่ผ่านมา นักศึกษาได้ทราบแล้วว่า พระภิกษุมีวิธีในการฝึกฝนอบรมตนเองหลาย
ทางโดยผ่านสิ่งต่างๆ ดังนี้
1. ฝึกผ่านกิจวัตรที่พระภิกษุต้องปฏิบัติกันเป็นประจำอยู่แล้ว เช่น การบิณฑบาต การสวดมนต์
การศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัย
2. ฝึกผ่านกิจกรรม หรือภารกิจหน้าที่การงานของสงฆ์ ได้แก่ การดูแลรักษา ซ่อมแซม หรือ
สร้างเสนาสนะ หรือธุระอื่นใด ที่สงฆ์มอบหมายให้รับผิดชอบ
เรียบเรียงจาก เสนาสนสูตร, อังคุตตรนิกาย ทสกนิบาต, มก. เล่ม 38 ข้อ 11 หน้า 23
บทที่ 7 ขั้ น ต อ น ที่ 5 กาลัญญ DOU 153