การเข้าใจธรรมชาติของผู้ฟังในพระพุทธศาสนา SB 303 แม่บทการฝึกอบรมในพระพุทธศาสนา หน้า 203
หน้าที่ 203 / 252

สรุปเนื้อหา

บทความนี้กล่าวถึงความสำคัญของการรู้จักธรรมชาติของผู้ฟังในพระพุทธศาสนา โดยชี้ให้เห็นถึงประเภทต่างๆ ของผู้ฟังที่มีทั้งที่พร้อมรับฟังและไม่พร้อมรับฟัง นอกจากนี้ยังพูดถึงหลักการที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสเพื่อให้พระภิกษุสามารถแบ่งประเภทผู้ฟังและแสดงธรรมได้อย่างเหมาะสม เพื่อให้การถ่ายทอดพระธรรมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ยกตัวอย่างเช่น ผู้ฟังที่ต้องการเห็นพระอริยะ ผู้ฟังที่ต้องการฟังสัทธรรม และการพิจารณาธรรมที่ทรงจำไว้ รวมไปถึงความสำคัญของการปฏิบัติธรรมตามที่ได้เรียนรู้และทรงจำมา โดยเน้นให้เห็นถึงความแตกต่างในทัศนคติและพฤติกรรมของผู้ฟังในกระบวนการเรียนรู้ทางพระพุทธศาสนา

หัวข้อประเด็น

-ธรรมชาติของผู้ฟัง
-บุคคลปโรปรัญญ
-การฟังธรรม
-ประสิทธิภาพในการแสดงธรรม
-การปฏิบัติธรรมตามรู้

ข้อความต้นฉบับในหน้า

พระภิกษุควรเข้าใจธรรมชาติของคนฟังว่า มีทั้งที่พร้อมรับฟังคำแนะนำ และพร้อมปฏิบัติตัวตาม ได้ กับที่ยังไม่พร้อมรับฟัง และไม่พร้อมจะปฏิบัติตัวตาม ความสำคัญของธรรมชาติคนฟัง ไม่ได้อยู่ที่รู้ว่าใครเป็นบุคคลประเภทใด เช่น คนนี้เป็นประเภท อุคฆติตัญญู คนโน้นเป็นประเภทวิปจิตัญญู หากแต่เป็นเรื่องการดูคนที่มีความแตกต่างกันไปตามธรรมชาติ ของแต่ละคนให้ออก ซึ่งพูดให้ง่าย ก็หมายถึงการ “ดูคนเป็น” นั่นเอง 9.2 รู้จักบุคคลปโรปรัญญ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสหลักการดูคนเป็นไว้แล้ว ในเรื่องบุคคลปโรปรัญญ มีรายละเอียด ดังนี้ “ก็ภิกษุเป็นบุคคลปโรปรัญญอย่างไร ภิกษุในธรรมวินัยนี้เป็นผู้รู้จักบุคคลโดยส่วน 2 คือ บุคคล 2 จําพวก คือ 1) พวกหนึ่งต้องการเห็นพระอริยะ พวกหนึ่งไม่ต้องการเห็นพระอริยะ บุคคลที่ไม่ต้องการเห็น พระอริยะ จึงถูกติเตียนด้วยเหตุนั้นๆ บุคคลที่ต้องการเห็นพระอริยะ จึงได้รับความสรรเสริญด้วยเหตุนั้นๆ บุคคลที่ต้องการเห็นพระอริยะก็มี 2 จำพวก คือ 2) พวกหนึ่งต้องการจะฟังสัทธรรม พวกหนึ่งไม่ต้องการฟังสัทธรรม บุคคลที่ไม่ต้องการฟัง สัทธรรมจึงถูกติเตียนด้วยเหตุนั้นๆ บุคคลที่ต้องการฟังสัทธรรม จึงได้รับความสรรเสริญด้วยเหตุนั้นๆ บุคคลที่ ต้องการฟังสัทธรรมก็มี 2 จำพวก คือ 3) พวกหนึ่งตั้งใจฟังธรรมพวกหนึ่งไม่ตั้งใจฟังธรรม บุคคลที่ไม่ตั้งใจฟังธรรม พึงถูกติเตียนด้วย เหตุนั้นๆ บุคคลที่ตั้งใจฟังธรรม จึงได้รับความสรรเสริญด้วยเหตุนั้นๆ บุคคลที่ตั้งใจฟังธรรมก็มี 2 จำพวก คือ 4) พวกหนึ่งฟังแล้วทรงจำธรรมไว้ พวกหนึ่งฟังแล้วไม่ทรงจำธรรมไว้ บุคคลที่ฟังแล้วไม่ทรง จำธรรมไว้ จึงถูกติเตียนด้วยเหตุนั้นๆ บุคคลที่ฟังแล้วทรงจำธรรมไว้จึงได้รับความสรรเสริญด้วยเหตุนั้นๆ บุคคลที่ฟังแล้วทรงจำธรรมไว้ก็มี 2 จำพวก คือ 5) พวกหนึ่งพิจารณาเนื้อความแห่งธรรมที่ทรงจำไว้ พวกหนึ่งไม่พิจารณาเนื้อความแห่งธรรม ที่ทรงจำไว้ บุคคลที่ไม่พิจารณาเนื้อความแห่งธรรมที่ทรงจำไว้ จึงถูกติเตียนด้วยเหตุนั้นๆ บุคคลที่พิจารณา เนื้อความแห่งธรรมที่ทรงจำไว้ จึงได้รับความสรรเสริญด้วยเหตุนั้นๆ บุคคลที่พิจารณาเนื้อความแห่งธรรม ที่ทรงจําไว้ก็มี 2 จำพวก คือ 6) พวกหนึ่งรู้อรรถรู้ธรรมแล้ว ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม พวกหนึ่งหารู้อรรถรู้ธรรม แล้ว ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรมไม่ บุคคลที่หารู้อรรถรู้ธรรมปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรมไม่ จึงถูกติเตียน 192 DOU แม่บทการฝึกอบรมในพระพุทธศาสนา
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More