ความรู้ทางพระพุทธศาสนาและการแพทย์โบราณ GB 101 ความรู้พื้นฐานทางพระพุทธศาสนา หน้า 31
หน้าที่ 31 / 270

สรุปเนื้อหา

เนื้อหาเกี่ยวกับความรู้ในพระพุทธศาสนา รวมถึงการแพทย์โบราณที่นำมาซึ่งความก้าวหน้าและการปฏิบัติตามหลักของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เช่น การผ่าตัดและการดีทอกซ์ที่มีมาแต่โบราณ นอกจากนี้ยังมีการศึกษาเรื่องรัฐศาสตร์ นิติศาสตร์ และเศรษฐศาสตร์ที่กล่าวถึงในพระสูตรต่างๆ ซึ่งสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในปัจจุบันได้ รวมถึงการสอนที่ยึดหลักกรรมลิขิตที่แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการกระทำของตนเองในชีวิต

หัวข้อประเด็น

-ความรู้ทางการแพทย์โบราณ
-การปกครองตามหลักพระพุทธศาสนา
-องค์ความรู้ด้านนิติศาสตร์
-หลักกรรมลิขิตในพระพุทธศาสนา
-ความหมายของการพ้นทุกข์

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ความกว้างของ 1 โลกธาตุขนาดใหญ่ที่มีกล่าวไว้พระไตรปิฎกเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตรัสว่าโลกธาตุไม่ได้มีเพียงหนึ่งเดียวแต่มีเป็นหมื่นเป็นแสนโลกธาตุที่เดียว" นี้คือความมหัศจรรย์ของ องค์ความรู้ในพระพุทธศาสนา ทางด้านการแพทย์นั้นก็มีหลายอย่างที่น่าสนใจ เช่น ในสมัยพุทธกาลวิชาการแพทย์มีความ ก้าวหน้ามากถึงกับมีการผ่าตัดสมองและลำไส้ด้วย ทั้ง ๆ ที่การผ่าตัดครั้งแรกด้วยการแพทย์แผนปัจจุบัน ในเมืองไทยเพิ่งเริ่มต้นขึ้นเมื่อในรัชกาลที่ 3 หรือ 170 กว่าปีมานี้เอง นอกจากนี้การดีทอกซ์ (Detox) และ การอบซาวน่า (Sauna) เพื่อขับพิษก็ไม่ได้เป็นสิ่งใหม่ แต่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระภิกษุใช้วิธีเหล่านี้ รักษาสุขภาพกันมาตั้งแต่สมัยพุทธกาลแล้ว โดยห้องอบซาวน่าในสมัยพุทธกาลนั้นเรียกว่า “เรือนไฟ” สำหรับสังคมศาสตร์นั้นก็มีองค์ความรู้ที่สำคัญและน่าสนใจดังนี้คือ มีทั้งด้านรัฐศาสตร์ นิติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ วาทศาสตร์ ฯลฯ ซึ่งความรู้เหล่านี้ปรากฏอยู่ในพระวินัยและพระสูตรต่าง ๆ เช่น อธิปไตย สูตร, ราชสูตร, จักกวัตติสูตร ฯลฯ พระสูตรเหล่านี้ว่าด้วยเรื่องการปกครองตนเอง และการปกครอง ประเทศของพระราชาในอดีต, กูฏทันตสูตร ว่าด้วยการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ และปัญหาศีลธรรมของผู้ ปกครองผู้ทรงธรรม, สิงคาลกสูตร ว่าด้วยหน้าที่ของบุคคลที่พึงปฏิบัติต่อกันในสังคม ส่วนในพระวินัยปิฎก นั้นเป็นเรื่องกฎระเบียบสำหรับควบคุมความประพฤติของพระภิกษุ จึงเป็นเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับนิติศาสตร์ โดยตรง สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในสังคมปัจจุบันได้เป็นอย่างดี สำหรับมนุษยศาสตร์นั้นเป็นเนื้อหาหลักของคำสอนในพระพุทธศาสนา เพราะจุดประสงค์หลักใน การตรัสสอนธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าคือ เพื่อช่วยให้มนุษย์พ้นจากความทุกข์ ซึ่งเกิดจากความเกิด ความแก่ ความเจ็บ ความตาย ความเศร้าโศกเสียใจเพราะการพลัดพรากจากคนหรือสิ่งของอันเป็นที่รัก ฯลฯ คำสอนเรื่องความพ้นทุกข์นี้หาไม่ได้จากตำราเรียนวิชาชีพทางโลก หาไม่ได้จากมหาวิทยาลัยบริหารธุรกิจ ที่มีชื่อเสียง หาไม่ได้จากทฤษฎีสัมพัทธภาพของไอน์สไตน์ แต่มีกล่าวไว้เฉพาะในพระพุทธศาสนาเท่านั้น คำสอนนี้จึงเป็นลักษณะพิเศษยิ่งของพระพุทธศาสนา 2.5.3 คำสอนยึดหลักกรรมลิขิตไม่ใช่พรหมลิขิต มีอยู่หลายศาสนาโดยเฉพาะศาสนาเทวนิยมสอนว่า วิถีชีวิตของมนุษย์และความเป็นไปของโลก ขึ้นอยู่กับพระเจ้าสูงสุดในศาสนาของตน ไม่ได้ขึ้นอยู่กับกรรมคือการกระทำของตัวเอง เช่น ศาสนาอิสลาม สอนว่า “ความเป็นไปต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตของแต่ละคน ไม่ว่าอายุยืนอายุสั้น เจริญหรือตกต่ำ เป็นต้น ล้วนเกิดจากการดลบันดาลของพระอัลเลาะห์ทั้งสิ้น... พระอัลเลาะห์จึงเป็นเจ้าชีวิตและทุกสิ่งทุกอย่าง” 2 พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์ มก. เล่ม 22 ข้อ 325 หน้า 408-409. พระวินัยปิฎก จุลวรรค และ ทุติยวรรค, มก. เล่ม 9 ข้อ 78 หน้า 29. บ ท ที่ 2 ค ว า ม มรู้ทั่วไป ท า ง พ ร ะ พุ ท ธ ศ า ส น า DOU 21
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More