ข้อความต้นฉบับในหน้า
ฐานที่ (๑) ปากช่องจมูก {
หญิงข้างซ้าย
ชายข้างขวา
หญิงข้างซ้าย
ฐานที่ (๒) เพลาตา {
ชายข้างขวา
ฐานที่ (๓) จอมประสาท
ฐานที่ (๔) ช่องเพดานปาก
ฐานที่ (๔) ปากช่องคอ
ฐานที่ (๗) ศูนย์กลางกาย
๒ นิ้วมือ
ฐานที่ (๖) ศูนย์กลางกายระดับสะดือ
3.3) กลไกการทำงานของใจ
พระเดชพระคุณพระภาวนาวิริยคุณ รองเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ได้ขยายความกลไกการ
ทำงานของใจตามคำสอนของหลวงปู่วัดปากน้ำ 4 ขั้นตอนคือ เห็น หรือรับ, จำ, คิด และรู้ จะเริ่มจาก
ประสาทสัมผัสต่าง ๆ ของร่างกายก่อน ดังนี้
ๆ
เมื่อมีรูปมากระทบตา ประสาทตาก็ส่งต่อไปให้ใจ ใจรับเอาไว้เรียกว่า เห็น
เมื่อมีเสียงมากระทบหู ประสาทหูก็ส่งต่อไปให้ใจ ใจก็รับเอาไว้เรียกว่า ได้ยิน
เมื่อมีกลิ่นมากระทบจมูก ประสาทจมูกก็ส่งต่อไปให้ใจ ใจก็รับไว้เรียกว่า ได้กลิ่น
เมื่อรสมากระทบลิ้น ประสาทลิ้นก็ส่งต่อไปให้ใจ ใจรับเอาไว้เรียกว่า ลิ้มรส
เมื่อมีสิ่งใดมากระทบร่างกาย ประสาทกายก็ส่งต่อไปให้ใจ ใจรับเอาไว้เรียกว่า โผฏฐัพพะหรือ
สัมผัสทางกาย
นี้เป็นกลไกการทำงานขั้นตอนที่ 1 คือ รับ ซึ่งเกิดขึ้นที่เนื้อใจชั้นนอกสุด แต่แปลกอยู่ตรงที่ว่า
ไม่ว่าอะไรก็ตามที่มาสัมผัสประสาทในตัวแล้ว เมื่อถูกส่งต่อไปให้ใจ ก็ถูกเปลี่ยนไปเป็นภาพให้ใจรับไว้ทั้งหมด
เสียงก็ถูกเปลี่ยนให้เป็นภาพได้ กลิ่นก็ถูกเปลี่ยนให้เป็นภาพได้ รสก็ถูกเปลี่ยนให้เป็นภาพได้ สัมผัสทางกาย
ก็ถูกเปลี่ยนให้เป็นภาพได้ อุปมาเหมือนกับคลื่นไฟฟ้า ภาพที่เปลี่ยนเป็นคลื่นไฟฟ้า เมื่อเข้าไปในจอทีวี มันก็
เปลี่ยนไปเป็นรูป เสียงที่เปลี่ยนเป็นคลื่นไฟฟ้า เมื่อเข้าไปในเครื่องทีวี เข้าไปในวิทยุก็กลับมาเป็นเสียงได้อีก
คือ สามารถเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาได้ เพราะฉะนั้น รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส และธรรมารมณ์ทั้งหลายจึง
เปลี่ยนไปเป็นภาพได้ทั้งหมด ดังนั้นหลวงปู่วัดปากน้ำ จึงใช้คำว่า “เห็น” แทนคำว่า “รับ”
เนื้อใจชั้นที่ 1 เมื่อรับแล้ว ก็ส่งต่อไปยังเนื้อใจชั้นที่ 2 ซึ่งอยู่ลึกกว่า เบา โปร่ง โล่ง และประณีต
มากกว่า ทำหน้าที่บันทึกไว้เป็นภาพทั้งหมด เหมือนกับวิดีโอที่สามารถบันทึกภาพไว้ได้ การบันทึกนี้ก็คือ จำ
ทำให้มนุษย์สามารถจำสิ่งต่าง ๆ ได้
48 DOU บ ท ที่ 3 ธ ร ร ม ช า ติ ข อ ง ชี วิ ต ท า ง พ ร ะ พุ ท ธ ศ า ส น า