ข้อความต้นฉบับในหน้า
ยังเป็นสาสวะ เป็นส่วนแห่งบุญให้ผลแก่ขันธ์อย่างหนึ่ง สัมมาทิฏฐิที่เป็นอริยะ ที่เป็นอนาสวะเป็นโลกุตระ
เป็นองค์มรรคอย่างหนึ่ง” คำว่า “สาสวะ” เป็นชื่อของกิเลส
(1) โลกิยมรรคคือมรรคฝ่ายโลกิยะ
สัมมาทิฏฐิ แปลว่า ความเห็นชอบ มี 10 ประการคือ “ทานที่ให้แล้วมีผล, ยัญที่บูชาแล้ว
มีผล, การเซ่นสรวงที่เซ่นสรวงแล้วมีผล, ผลวิบากแห่งกรรมที่ทำดีและทำชั่วมี, โลกนี้มี, โลกหน้ามี, มารดา
มีคุณ, บิดามีคุณ, สัตว์ที่เป็นโอปปาติกะมี, สมณพราหมณ์ผู้ประพฤติปฏิบัติชอบทำให้แจ้งโลกนี้และโลกหน้า
ด้วยปัญญาอันยิ่งเอง แล้วสอนผู้อื่นให้รู้แจ้งก็มีอยู่ในโลก”
สัมมาทิฏฐิทั้ง 10 ประการดังกล่าวได้อธิบายปูพื้นมาเป็นลำดับ ๆ แล้ว โดยเนื้อหาแทรก
อยู่ในบทที่ 2, 3, 4 และ 5 ในที่นี้ถือเป็นการสรุปใจความโดยย่อดังนี้
-ทานที่ให้แล้วมีผล หมายถึง อานิสงส์ของการให้ทานมีจริง เช่น ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก และผู้
ให้จะได้กุศลผลบุญติดตัวไปซึ่งจะบันดาลความสุขความสำเร็จให้เกิดขึ้นอีกด้วย
-ยัญที่บูชาแล้วมีผล คำว่า “ยัญ” ในที่นี้คือ การสงเคราะห์ด้วยการให้ทาน แบ่งเป็น 2 ประเภท
คือ สังคมสงเคราะห์ คือ ให้ทานแก่บุคคลทั่วไป และ ศาสนสงเคราะห์ คือ ให้ทานแก่นักบวช ได้แก่ ภิกษุ
สามเณร
การสงเคราะห์ต่างจากการให้ทานในข้อแรกคือ ทานในข้อแรกให้เพื่อแสดงน้ำใจไมตรีต่อกัน
เช่น ให้ของขวัญวันเกิด เป็นต้น ส่วนการสงเคราะห์เป็นการช่วยเหลือผู้ที่ขาดแคลน เช่น คนประสบภัย
ธรรมชาติต่าง ๆ หรือ ปกตินักบวชเป็นผู้ขาดแคลนปัจจัย 4 เพราะท่านไม่ได้ทำมาหากินอย่างคนทั่วไป หาก
ไม่ให้ทานแก่ท่าน ๆ ก็ไม่อาจดำรงอยู่ในเพศบรรพชิตได้
การสงเคราะห์ด้วยการให้ทานนี้ก็มีผลคือได้บุญโดยเฉพาะการสงเคราะห์แก่นักบวชผู้มีศีล
จะส่งผลให้ผู้ทำการสงเคราะห์ได้บุญมาก บุญนี้จะทำให้ถึงพร้อมด้วยทรัพย์สมบัติ เป็นต้น
-การเซ่นสรวงที่เซ่นสรวงแล้วมีผล คำว่า “เซ่นสรวง” ในที่นี้หมายถึง การบูชา ได้แก่ การ
บูชาบุคคลหรือสิ่งของที่ควรบูชา เช่น พระรัตนตรัย เป็นต้น การบูชาโดยเฉพาะการบูชาพระรัตนตรัยนี้มี
ผลคือ ได้บุญกุศลที่จะทำให้ผู้บูชามีความสุขความเจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไป
-ผลวิบากแห่งกรรมที่ทำดีและทำชั่วมี หมายถึง กฎแห่งกรรมมีจริง ทำดีได้ดีจริง ทำชั่วได้
ชั่วจริง การกระทำมีผล ไม่สูญเปล่า
3
5
-โลกนี้มี หมายถึง โลกนี้มีสำหรับคนที่อยู่โลกอื่น” หมายความว่า การที่มนุษย์แต่ละคนมา
1 พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์ มก., เล่ม 22 ข้อ 256 หน้า 342.
- พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์, มหาจัตตารีสกสูตร, มจร., เล่ม 14 ข้อ 136 หน้า 176.
*พระภาวนาวิริยคุณ (เผด็จ ทตตชีโว) (2551), ศรัทธารุ่งอรุณแห่งสันติภาพโลก, หน้า 82-85
อัฏฐสาลินี อรรถกถาธรรมสังคณี อรรถกถานิกเขปกัณฑ์ มก., เล่ม 76 หน้า 473.
*สุมังคลวิลาสินี อรรถกถาทีฆนิกาย สีลขันธวรรค, อรรถกถาสามัญญผลสูตร, มก., เล่ม 11 หน้า 387.
บ ท ที่ 6 พระ ธ ร ร ม : คำสั่ง ส อ น ข อ ง พ ร ะ ส ม ม า สั ม พุ ท ธ เจ้า
DOU 151