ข้อความต้นฉบับในหน้า
ชายคนที่สอง ส่วนชายคนที่สามถือว่าเป็นคนละเอียดถี่ถ้วนที่สุด รู้จักสังเกตและตั้งคำถามว่า ทำไมกิ่งไม้
ข้างทางจึงหักฝั่งเดียว อีกฝั่งหนึ่งไม่หักทั้ง ๆ ที่อยู่ในระยะที่ช้างกินได้ทั้งสองฝั่ง เขาจึงสรุปว่า ช้างตัวนี้
ต้องเป็นช้างตาบอด 1 ข้างแน่นอน
2.6.4 ธัมมานุธัมมปฏิปัตติ : ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม
ธัมมานุธัมมปฏิปัตติ
หมายถึง ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม ในหัวข้อนี้พระเดชพระคุณพระ
ภาวนาวิริยคุณ รองเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายกล่าวไว้ว่า เมื่อเราหาครูที่พบแล้ว ฟังคำครูชัดแล้ว ตรอง
คำครูลึกแล้ว ขั้นต่อไปจะต้องปฏิบัติจริงให้ได้เหมือนครู คือต้อง “ทำตามครูให้ครบ” มิฉะนั้น เราจะเป็น
คนเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ นั้นคือ เก่งทฤษฎี แต่สอบตกปฏิบัติ ชีวิตนี้จึงยากจะประสบความสำเร็จได้ทั้ง ๆ ที่เขา
ก็ไม่ใช่เป็นคนโง่
พระอานนทเถระกล่าวไว้ว่า “ผู้ใดเล่าเรียนมามาก แต่เขาไม่ได้ปฏิบัติตามที่เล่าเรียนมา ย่อมปรากฏ
แก่เราเหมือนคนตาบอดถือดวงไฟไปฉะนั้น” กล่าวคือ คนตาบอดแม้จะมีดวงไฟถืออยู่ในมือ แต่ดวงไฟนั้น
ก็ไม่ได้เป็นประโยชน์แก่เขาเลย เพราะถึงอย่างไรเขาก็มองไม่เห็นอยู่ดี คนที่มีวิชาความรู้มากมายแต่ไม่ได้
นำความรู้นั้นมาปฏิบัติ ความรู้ที่มีอยู่จึงไม่ได้เกิดประโยชน์แก่เขาเลย หรือคล้าย ๆ กับคนเลี้ยงโคให้คนอื่น
แต่ตัวเองไม่ได้กินน้ำนมโคนั้น
การลงมือปฏิบัติตามคำสอนของครูบาอาจารย์นั้น สิ่งที่เราจะต้องทำลำดับแรกคือ ต้องสรุป
คำสอนที่ได้เรียนได้ฟัง และไตร่ตรองจนเข้าใจ แล้วลงเป็นหลักปฏิบัติอย่างชัดเจนได้ โดยตั้งคำถามว่า
“อย่างไร” หรือ “How” คือ มีขั้นตอนการปฏิบัติอย่างไรจึงจะทำได้อย่างที่ครูสอน เช่น เมื่อรู้แล้วว่า บุญ
คืออะไร และเข้าใจแล้วว่าทำไมจึงต้องสร้างบุญ ต่อไปก็ต้องถามต่อว่า แล้ววิธีการทำบุญนั้นต้องทำอย่างไร
ก็จะได้คำตอบว่าการทำบุญนั้นทำได้อย่างน้อย 3 วิธีคือ การให้ทาน การรักษาศีล และการเจริญสมาธิภาวนา
หลังจากนั้นก็ให้ลงรายละเอียดถึงวิธีการทำบุญแต่ละอย่างไปอีกว่า การให้ทาน รักษาศีล และเจริญภาวนา
ต้องทำอย่างไร
ในการปฏิบัติธรรมหรือลงมือทำงาน ๆ ใดก็ตาม การที่จะให้เกิดผลดีดังใจเราปรารถนานั้น
อย่างน้อยต้องมีองค์ประกอบ 3 ประการคือต้องให้ ถูกดี ถึงดี และ พอดี
ถูกดี คือมีปัญญาสามารถทำถูกวิธีตามที่ครูสอนได้ อุปมาเหมือนการเดินทางหากเลือกเส้นทาง
ผิดก็ไม่มีทางที่จะไปถึงเป้าหมายได้
ถึงดี คือมีความพยายามที่จะปฏิบัติธรรมหรือทำงานต่าง ๆ จนเต็มตามความสามารถ การทำ
แบบเหยาะแหยะแต่หวังผลเลอเลิศนั้นเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้
* พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกายเถรคาถา อานันทเถรคาถา มก. เล่ม 53 ข้อ 397 หน้า 301.
บ ท ที่ 2 ค ว า ม
มรู้ทั่วไป ทาง พระ พุ ท ธ ศ า ส น า
DOU 31