ข้อความต้นฉบับในหน้า
เมื่อใจแยกกันคือไม่ช้อนเป็นจุดเดียวกัน หลวงปู่วัดปากน้ำกล่าวไว้ว่า “เห็นน่ะดวงมันอยู่
ศูนย์กลางกาย (ฐานที่ 6) จำน่ะดวงมันอยู่ศูนย์กลางเนื้อหัวใจ มันย่อมกว่าดวงเห็นลงมาหน่อย คิดน่ะอยู่
ในกลางดวงจำ นั่นย่อมลงมาหน่อย รู้น่ะอยู่ในกลางดวงคิด นั่นย่อมลงมาเท่าดวงตาดำข้างใน นั่นมีหน้าที่
รู้……….1
จะเห็นว่าคำสอนของหลวงปู่วัดปากน้ำเรื่องที่ตั้งส่วนหนึ่งของใจที่ว่า “ศูนย์กลางเนื้อหัวใจ” นั้น
สอดคล้องกับในอรรถกถาที่ว่า ใจหรือจิตตั้งอยู่ในหทัยวัตถุ คือ หัวใจนั่นเอง
3.2) ฐานที่ตั้งของใจ
แม้ใจของเราจะซัดส่ายไปมาไม่อยู่นิ่ง ณ ที่ใดนาน แต่ทั้งนี้ใจก็มีฐานที่ตั้งเหมือนกัน กล่าวคือ นอกจาก
จะมีที่ตั้งอยู่ในหัวใจดังกล่าวแล้วฐานที่ตั้งของใจตามที่พระเดชพระคุณพระมงคลเทพมุนีสอนไว้ยังมีอีก 7 ฐาน
คือ
ฐานที่ 1 ปากช่องจมูก ถ้าเป็นท่านหญิงก็อยู่ตรงปากช่องจมูกข้างซ้าย ถ้าเป็นท่านชายก็
อยู่ตรงปากช่องจมูกข้างขวา
ฐานที่ 2 เพลาตา หญิงอยู่อีกข้างซ้าย ชายอยู่อีกข้างขวาตรงหัวตาที่มูลตาออก
ฐานที่ 3 จอมประสาท ได้ระดับพอดีกับตา แต่อยู่ข้างใน
นึกเอาเส้นด้าย 2 เส้น ขึงให้ตึงจากกึ่งกลางระหว่างหัวตาทั้งสองข้างทะลุท้ายทอย กกหู
ซ้ายทะลุหูขวา ตรงจุดตัดคือ จอมประสาท
ฐานที่ 4 ช่องเพดานปาก บริเวณเหนือลิ้นไก่ ตรงที่รับประทานอาหารแล้วอาหารสำลัก
ฐานที่ 5 ปากช่องลำคอ อยู่เหนือลูกกระเดือก อยู่ตรงกลางช่องคอพอดี
ฐานที่ 6 ศูนย์กลางกายระดับสะดือ อยู่ข้างในตรงกลางตัว
ปกติใจของมนุษย์จะตั้งอยู่ที่ฐานที่ 6 นี้คือ อยู่ในกลางดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายมนุษย์ดังได้กล่าว
แล้วในหัวข้อที่ผ่านมา ส่วนฐานที่ 1-5 เป็นที่ตั้งชั่วคราวของใจ แต่สำหรับฐานที่ 7 นั้นเป็นที่ตั้งสำคัญที่สุด
ของใจ เพราะเป็นประตูสู่การบรรลุมรรคผลนิพพาน
ฐานที่ 7 ศูนย์กลางกายเหนือฐานที่ 6 สองนิ้วมือ โดยย้อนกลับขึ้นมาข้างบน 2 นิ้ว คำว่า
2 นิ้วมือในที่นี้ หมายถึง การนำนิ้วชี้กับนิ้วกลางวางซ้อนกัน
ฐานที่ 7 นี้เป็นฐานที่สำคัญที่สุด บุคคลจะบรรลุมรรคผลนิพพานได้ จะต้องทำสมาธิโดยนำใจมา
รวมหยุดนิ่งอยู่ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ 7 นี้เท่านั้น
- พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร)(2538), พระธรรมเทศนา 69 กัณฑ์, กัณฑ์ 19 โอวาทปาฏิโมกข์ หน้า 230-231.
บ ท ที่ 3 ธ ร ร ม ช า ติ ข อ ง ชี วิ ต ท า ง พ ร ะ พุ ท ธ ศ า ส น า
DOU 47