ข้อความต้นฉบับในหน้า
กิจการค้าขายแทนโยมพ่อซึ่งเสียไปตั้งแต่ท่านอายุได้ 14 ปี จนกระทั่งอายุได้ 19 ปี ท่านก็เกิดความคิด
ขึ้นว่า ชีวิตนี้มีทุกข์ ตายแล้วเงินทองที่หามาก็เอาติดตัวไปไม่ได้ ท่านจึงมีความตั้งใจว่า “ขออย่าให้เราตาย
เสียก่อน ขอให้ได้บวชเสียก่อนเถิด ถ้าบวชแล้วไม่สึกตลอดชีวิต”
ในที่สุดท่านก็ได้อุปสมบทในต้นเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2449 ขณะอายุได้ 22 ปี ณ วัดสองพี่น้อง
อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี ได้รับฉายาว่า จนฺทสโร
เมื่อบวชแล้วหลวงปู่ก็ทุ่มเทให้กับการศึกษาเล่าเรียน และตั้งใจนั่งสมาธิทุกวันไม่ขาดเลยตั้งแต่
ออกบวช จนได้เข้าถึงพระธรรมกายในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 10 พ.ศ. 2460 ในกลางพรรษาที่ 12 ณ วัดโบสถ์-
บน อำเภอบางคูเวียง จังหวัดนนทบุรี
ๆ
ในช่วงเช้าของวันนั้น ท่านเข้าไปนั่งสมาธิเจริญภาวนาในพระอุโบสถ โดยตั้งใจว่าหากยังไม่ได้ยิน
เสียงกลองเพล จะไม่ยอมลุกจากที่ เมื่อตั้งใจแล้ว ก็หลับตาภาวนา “สัมมา อะระหัง” ไปเรื่อย ๆ ขณะนั่ง
ไปความปวดเมื่อยค่อย ๆ เพิ่มทีละน้อย ๆ และมากขึ้นจนมีความรู้สึกว่า กระดูกทุกชิ้นแทบจะระเบิดหลุด
ออกมาเป็นชิ้น ๆ ท่านจึงคิดที่จะเลิกนั่งหลายครั้ง แต่เมื่อได้ตั้งสัจจะไปแล้วท่านก็ทนนั่งต่อไป ในที่สุดใจก็
ค่อย ๆ สงบลงทีละน้อย แล้วใจก็รวมหยุดเป็นจุดเดียวกัน เห็นเป็นดวงใสบริสุทธิ์ขนาดเท่าฟองไข่แดงของ
ไก่ ใจชุ่มชื่น เบิกบานอย่างบอกไม่ถูก ความปวดเมื่อยหายไปไหนไม่ทราบ ในเวลาเดียวกันนั้นเสียงกลอง
เพลก็ดังขึ้น
ๆ
วันนั้นท่านมีความสุขตลอดทั้งวัน ดวงธรรมขั้นต้นซึ่งเป็นดวงใสก็ยังเห็นติดอยู่ตรงศูนย์กลางกาย
ตลอดเวลา ในช่วงเย็นท่านได้เข้าไปในพระอุโบสถแล้วตั้งสัตยาธิษฐานว่า “แม้เลือดเนื้อจะแห้งเหือดหายไป
เหลือแต่หนัง เอ็น กระดูกก็ตามที ถ้านั่งลงไปแล้วไม่บรรลุธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงเห็น จะไม่ยอมลุกขึ้น
จากที่จนตลอดชีวิต”
เมื่อท่านตั้งความปรารถนาแล้ว ก็เริ่มนั่งขัดสมาธิเข้าที่ภาวนา เมื่อนั่งเข้าที่ได้ประมาณครึ่งหรือ
ค่อนคืน ใจจึงเริ่มหยุดเป็นจุดเดียวกัน มองเห็นดวงใสบริสุทธิ์ขนาดเท่าฟองไข่แดงของไก่ ซึ่งยังติดอยู่ที่
ศูนย์กลางกายจากเมื่อเพล ยิ่งมองยิ่งใสสว่างมากขึ้น และขยายใหญ่ขนาดเท่าดวงอาทิตย์ ดวงใสยังคง
สว่างอยู่อย่างนั้น โดยที่ท่านก็ไม่ทราบว่าจะทำอย่างไรต่อไป เพราะทุกสำนักที่ท่านได้ศึกษามาไม่เคยมี
ประสบการณ์เช่นนี้มาก่อน
ขณะที่ใจหยุดนิ่งอยู่ตรงนั้น ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากจุดกลางดวงนั้นว่า “มัชฌิมา ปฏิปทา” แต่
ขณะที่เสียงนั้นดังแผ่วขึ้นมาในความรู้สึก ก็เห็นจุดเล็ก ๆ เรืองแสง สว่างวาบขึ้นมาจากกลางดวงนั้น เสมือน
จุดศูนย์กลางของวงกลม ความสว่างของจุดนั้นสว่างกว่าดวงกลมรอบ ๆ ท่านมองเรื่อยไป พลางคิดในใจว่า
นี่กระมังทางสายกลาง จุดเล็กที่เราเพิ่งจะเห็นเดี๋ยวนี้อยู่กึ่งกลางพอดี ลองมองดูซิจะเกิดอะไรขึ้น
จุดนั้นค่อย ๆ ขยายขึ้นและโตเท่ากับดวงเดิม ดวงเก่าหายไป ท่านมองไปเรื่อย ๆ ก็เห็นดวงใหม่
ลอยขึ้นมาแทนที่ เหมือนน้ำพุที่พุ่งขึ้นมาแทนที่กันนั่นแหละ ต่างแต่ใสยิ่งขึ้นกว่าดวงเดิม ในที่สุดก็เห็นกาย
ละเอียดต่าง ๆ ที่ซ้อนอยู่ในตัวผุดซ้อนกันขึ้นมา จนกระทั่งเข้าถึงธรรมกาย เป็นพระปฏิมากรเกตุดอกบัวตูม
ๆ
บ ท ที่ 3 ธ ร ร ม ช า ติ ข อ ง ชี วิ ต ท า ง พ ร ะ พุ ท ธ ศ า ส น า
ที่
DOU 41