ขั้นตอนการบรรพชาและอุปสมบทในพุทธศาสนา GB 101 ความรู้พื้นฐานทางพระพุทธศาสนา หน้า 200
หน้าที่ 200 / 270

สรุปเนื้อหา

บทความนี้นำเสนอวิธีการบรรพชาของกุลบุตรเป็นสามเณรในสมัยพุทธกาลและการอุปสมบทเป็นพระภิกษุ โดยในปัจจุบันมีการเพิ่มพิธีกรรมเพื่อสร้างความศักดิ์สิทธิ์ และมีกระบวนการในการบวชที่แตกต่างกันไปตามประเพณี รวมถึงขั้นตอนการบวชในวัดพระธรรมกาย เช่น พิธีเวียนประทักษิณ และพิธีรับบาตร นอกจากนี้ยังมีวิธีการอุปสมบทหลัก 3 วิธี ได้แก่ เอหิภิกขุอุปสัมปทา, ติสรณคมนูปสัมปทา และ ญัตติจตุตถกรรมวาจา ที่ช่วยให้เข้าใจถึงโปรเดสของการบวชในพระพุทธศาสนา อีกทั้งเป็นการสร้างบุญและกุศลให้แก่ผู้บวช。

หัวข้อประเด็น

-บรรพชาเป็นสามเณร
-พิธีกรรมการบวช
-การอุปสมบทเป็นพระภิกษุ
-แบบแผนการบวช
-วิธีการอุปสมบทในพุทธศาสนา

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ขั้นตอนการบรรพชากุลบุตรเป็นสามเณรในสมัยพุทธกาลมีเพียงเท่านี้ อย่างไรก็ตามในปัจจุบันมี การเพิ่มพิธีกรรมย่อยต่างๆ เข้ามา เพื่อให้ผู้ขอบวชได้บุญกุศลเพิ่มขึ้น และเพื่อให้การบรรพชามีความศักดิ์สิทธิ์ มากขึ้น แต่รูปแบบพิธีกรรมจะต่างกันไปตามประเพณีท้องถิ่นหรือตามแต่วัดต่าง ๆ จะเห็นเหมาะสม ตัวอย่างเช่นขั้นตอนการบรรพชาของวัดพระธรรมกาย จะมีพิธีกรรมต่าง ๆ เป็นลำดับดังนี้คือ พิธีเวียนประทักษิณรอบพระอุโบสถ, พิธีวันทาสีมา, พิธีวันทาพระประธาน, พิธีขอขมาและรับผ้าไตร, พิธี ขอบรรพชา จากนั้นก็จะถึงพิธีขอถึงไตรสรณคมน์และขอศีล สุดท้ายก็จะเป็นพิธีรับบาตร หากเป็นการ อุปสมบทคือ “บวชเป็นพระภิกษุ” ก็จะมีพิธีขอนิสสัย ขออุปสมบท และพิธีรับอนุศาสน์เป็นลำดับต่อไป 7.5.2 วิธีการอุปสมบทเป็นพระภิกษุ การอุปสมบทเป็นพระภิกษุนั้นมีวิธีการหลัก ๆ 3 วิธีคือ เอหิภิกขุอุปสัมปทา, ติสรณคมนูปสัมปทา และ ญัตติจตุตถกรรมวาจา ดังนี้ 1) เอหิภิกขุอุปสัมปทา เป็นการอุปสมบทโดยมีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นพระอุปัชฌาย์ ผู้ที่ได้ รับการอุปสมบทด้วยวิธีนี้รูปแรกคือ พระอัญญาโกณฑัญญะ กล่าวคือ เมื่อครั้งที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า แสดงธัมมจักกัปปวัตตนสูตรอันเป็นปฐมเทศนาแก่ปัญจวัคคีย์หรือนักบวช 5 รูป ได้แก่ ท่านโกณฑัญญะ เป็นต้น ณ ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน เขตพระนครพาราณสี ในครั้งนั้นท่านโกณฑัญญะได้บรรลุธรรมเป็นพระโสดาบัน เมื่อท่านได้บรรลุธรรมแล้วก็ได้ทูลต่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า ขอข้าพระองค์จึงได้บรรพชา จึงได้อุปสมบท ในสำนักพระผู้มีพระภาคเจ้าพระพุทธเจ้าข้า พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า “เธอจงเป็นภิกษุมาเถิด ธรรม อันเรากล่าวดีแล้ว เธอจงประพฤติพรหมจรรย์ เพื่อทำที่สุดทุกข์โดยชอบเถิด” ด้วยพระดำรัสเพียงเท่านี้ท่านโกณฑัญญะก็ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุโดยสมบูรณ์ ในกรณีที่ผู้ขออุปสมบทได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์แล้ว เช่น ยสกุลบุตร เป็นต้น พระสัมมา สัมพุทธเจ้าก็จะไม่ตรัสประโยคที่ว่า “เพื่อทำที่สุดทุกข์โดยชอบเถิด” แต่ตรัสเพียงว่า “เธอจงเป็นภิกษุมาเถิด ธรรมอันเรากล่าวดีแล้ว เธอจงประพฤติพรหมจรรย์เถิด” 2) ติสรณคมนูปสัมปทา คือ การอุปสมบทด้วยไตรสรณคมน์นั่นเอง เป็นการบวชที่มีพระสาวก เป็นพระอุปัชฌาย์ ซึ่งมีวิธีการเดียวกันกับการบวชเป็นสามเณร แต่ผู้บวชจะต้องถือศีลของพระภิกษุ การ อุปสมบทวิธีนี้สืบเนื่องมาจากมีกุลบุตรผู้ปรารถนาจะบวชแต่อยู่ในชนบทอันห่างไกล พระภิกษุที่อยู่ในถิ่น นั้น ๆ ต้องพากุลบุตรเหล่านั้นเดินทางรอนแรมมาเพื่อให้พระพุทธองค์บวชให้ จึงได้รับความลำบากมาก ด้วย เหตุนี้พระพุทธเจ้าจึงทรงอนุญาตให้พระสาวกในท้องถิ่นนั้น ๆ ทำหน้าที่เป็นพระอุปัชฌาย์ให้การบรรพชา และอุปสมบทแก่กุลบุตรได้ 3 พระวินัยปิฎก มหาวรรค ภาค 1, มก. เล่ม 6 ข้อ 18 หน้า 50. 2 พระวินัยปิฎก มหาวรรค ภาค 1, มก. เล่ม 6 ข้อ 28 หน้า 67. พระวินัยปิฎก มหาวรรค ภาค 1, มก. เล่ม 6 ข้อ 34 หน้า 73 190 DOU บ ท ที่ 7 พระสงฆ์ : ส า ว ก ข อ ง พ ร ะ สัมมา สัมพุทธเจ้า
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More