ข้อความต้นฉบับในหน้า
ที่กล่าวมาข้างต้นเป็นการแสดงความเคารพต่อพระรัตนตรัยภายนอก ส่วนวิธีการแสดงความ
เคารพพระรัตนตรัยภายในตามคำสอนของหลวงปู่วัดปากน้ำคือ ต้องปฏิบัติธรรมให้เข้าถึงพระรัตนตรัย
ในตัวให้ได้ ด้วยการน้อมนำใจมาหยุดนิ่งอยู่ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ 7 เมื่อเข้าถึงพระรัตนตรัยภายในแล้ว
ก็เอาใจไปจรดหยุดนิ่งอยู่ที่พระรัตนตรัยนั้น การทำอย่างนี้ชื่อว่าเป็นการแสดงความเคารพคือให้
ความสำคัญต่อพระรัตนตรัย กล่าวคือ เมื่อเข้าถึงแล้วก็ไม่ปล่อยวางเสีย เพราะการปล่อยวางหรือไม่ใส่ใจ
ในไม่ช้าธรรมะที่เข้าถึงก็จะเลือนหายไป
4.10.4 อานิสงส์ของการมีความเคารพ
มีคำกล่าวไว้ว่า “เมื่อจะใช้ประโยชน์จากสิ่งใด เราจำเป็นต้องรู้ถึงคุณค่าของสิ่งนั้นก่อนฉันใด ผู้ที่
จะรับประโยชน์จากบุคคลอื่นหรือสิ่งอื่นได้ ก็จำเป็นต้องมีความเคารพต่อบุคคลนั้นและสิ่งนั้นก่อนฉันนั้น”
เมื่อครั้งที่หมอชีวกโกมารภัจจ์ไปเรียนวิชาแพทย์ ณ เมืองตักกสิลา ขณะที่เรียนผ่านไปได้ 7 ปี วันหนึ่ง
ท่านถามอาจารย์ว่า “กระผมเรียนวิชาแพทย์สำเร็จตามหลักสูตรแล้วหรือยัง” อาจารย์ตอบว่า “พ่อชีวก
ถ้าเช่นนั้นเธอจงถือเสียมเที่ยวไปรอบเมืองตักกสิลา ระยะทาง 1 โยชน์ ตรวจดูสิ่งใดไม่ใช่ตัวยา จงขุดสิ่ง
นั้นมา” ชีวกโกมารภัจจ์จึงถือเสียมเดินไปรอบเมืองตักกสิลาระยะทาง 1 โยชน์ ไม่เห็นสิ่งใดที่ไม่เป็นตัวยา
สักอย่างหนึ่ง จึงเดินทางกลับมารายงานอาจารย์ ท่านอาจารย์บอกว่า “พ่อชีวก เธอศึกษาสําเร็จแล้ว”
จากเรื่องนี้ทำให้ได้ข้อคิดว่า การที่หมอชีวกสามารถนำสิ่งต่าง ๆ รอบตัวในระยะทาง 1 โยชน์มา
ทำยาได้หมดนั้น แสดงว่าท่านศึกษาเรื่องยามาอย่างดี จนอาจกล่าวได้ว่ารู้คุณสมบัติความเป็นยาของทุกสิ่ง
ทุกอย่างรอบตัวเลยทีเดียว ตรงข้ามหากให้บุคคลทั่วไปถือเสียมออกไปหาตัวยาเช่นท่านบ้าง คงพบสิ่งที่
คิดว่าทำยาไม่ได้มากมาย ทั้งนี้เพราะไม่ได้ศึกษามาก่อนว่าจะนำสิ่งต่าง ๆ รอบตัวมาทำยาได้อย่างไร
จริง ๆ แล้ววัตถุทั้งหลายในโลก ต่างมีคุณสมบัติเฉพาะตัวของมัน ถ้าใครทราบคุณสมบัติเหล่านั้น
ตามความเป็นจริง ก็สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้มาก เช่น นักวิทยาศาสตร์รู้คุณสมบัติของแม่เหล็ก ก็นำ
ไปใช้ผลิตกระแสไฟฟ้าได้ รู้คุณสมบัติของแร่เรเดียม ก็นำไปใช้เป็นยาเพื่อรักษาโรคมะเร็งได้
แต่การที่จะรู้คุณสมบัติตามความเป็นจริงของสิ่งต่าง ๆ นั้น ทำได้ยากมาก เป็นวิสัยของนักปราชญ์
ของผู้มีปัญญาเท่านั้น
เช่นกันคนทั้งหลายในโลกต่างก็มีคุณความดีในตัวต่าง ๆ กันไป มากบ้าง น้อยบ้างไม่เท่ากัน ผู้ใด
ทราบถึงคุณความดีของบุคคลทั้งหลายได้ตามความเป็นจริง ก็จะเป็นประโยชน์ ทำให้มีโอกาสที่จะถ่ายทอด
คุณความดีนั้น ๆ จากผู้อื่นมาสู่ตนเอง หากเป็นผู้บริหารก็สามารถมอบหมายงานลูกน้องได้ตรงความสามารถ
และใช้งานลูกน้องได้เต็มความสามารถที่เขามีอยู่ ส่งผลให้งานขององค์กรก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว
คนที่มีความเคารพจะเป็นประดุจทะเลที่รวมแห่งรัตนะคือความดีทั้งหลาย เพราะเขาจะเห็นสิ่งดีๆ
ต่าง ๆ รอบตัว แล้วน้อมนำเข้ามาสู่ใจ ทำให้ความคิด คำพูด การกระทำ บุคลิกของเขาพัฒนาไปในทาง
ที่ดีโดยอัตโนมัติ เขาจะมีจิตใจผ่องใสเพราะเห็นอะไรก็สวยสดงดงามไปหมด แม้เจอปัญหาเจอวิกฤตก็
บ
บ ท ที่ 4
4 พ ร ะ รั ต น ต ร ย : แ ก่ น ข อ ง พ ร ะ พุ ท ธ ศ า ส น า DOU 89