อนาถปิณฑิกะ: ผู้ให้ก้อนข้าวแก่คนอนาถา GB 101 ความรู้พื้นฐานทางพระพุทธศาสนา หน้า 241
หน้าที่ 241 / 270

สรุปเนื้อหา

เนื้อหาพูดถึงประวัติของอนาถปิณฑิกะ ผู้มีชื่อเสียงด้านการให้ทานและรักในการทำบุญ ท่านมีโอกาสได้พบกับพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่เมืองราชคฤห์ และหลังจากนั้นได้สร้างวัดพระเชตวันในเมืองสาวัตถีเพื่อรองรับพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระสงฆ์ โดยยึดหลักในการเลือกสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับการสร้างวัด ซึ่งแสดงถึงความเสียสละและแนวทางปฏิบัติทางธรรมของท่าน อนาถปิณฑิกะจึงกลายเป็นตัวอย่างที่ดีในการทำบุญและสร้างบารมี

หัวข้อประเด็น

- ประวัติของอนาถปิณฑิกะ
- การพบพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
- การสร้างวัดพระเชตวัน
- การให้ทานและการทำบุญ
- หลักในการเลือกสถานที่สร้างวัด

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ตั้งจิตอธิษฐานเพื่อให้ได้ตำแหน่งนั้นในอนาคต หลังจากชาตินั้นแล้วท่านก็สร้างบารมีเรื่อยมานับภพนับชาติไม่ถ้วนตลอด 100,000 กัป ในชาติ สุดท้ายนี้ได้มาเกิดในเรือนของสุมนเศรษฐี กรุงสาวัตถี มีชื่อว่า “สุทัตตะ” แต่ด้วยอัธยาศัยรักการให้ทาน จึงได้ชื่อว่า “อนาถปิณฑิกะ” แปลว่า “ผู้ให้ก้อนข้าวแก่คนอนาถา” เมื่อเจริญวัยขึ้นแล้วได้ทำธุรกิจด้าน การค้าขาย ครั้งหนึ่งท่านใช้เกวียน 500 เล่มบรรทุกสินค้าไปขายยังกรุงราชคฤห์ ได้ทราบจากราชคห เศรษฐีสหายรักว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จอุบัติขึ้นแล้ว และทรงประทับอยู่ ณ ป่าสีตวัน แห่งกรุง ราชคฤห์นี้เอง เมื่อท่านเศรษฐีทราบข่าวอันเป็นมงคลนั้น ได้เกิดความปีติยินดีเป็นอย่างยิ่ง วันรุ่งขึ้นจึงรีบ ไปเฝ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตั้งแต่เช้ามืด พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงธรรมคืออนุปุพพิกถาและอริยสัจ 4 แก่ท่าน ขณะที่ทรงแสดง อริยสัจ 4 อยู่นั้น ท่านเศรษฐีก็ได้บรรลุธรรมเป็นพระโสดาบัน และได้กราบทูลว่า “ข้าพระพุทธเจ้านี้ ขอถึง พระผู้มีพระภาคเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์ว่าเป็นสรณะ ขอพระองค์จงทรงจำข้าพระพุทธเจ้าว่า เป็น อุบาสกผู้มอบชีวิตถึงสรณะ จำเดิมแต่วันนี้เป็นต้นไป และขอพระองค์พร้อมด้วยภิกษุสงฆ์ จงทรงรับ ภัตตาหาร เพื่อเจริญบุญกุศลปีติและปราโมทย์ในวันพรุ่งนี้ของข้าพระพุทธเจ้า” จากนั้นท่านเศรษฐีก็ได้กลับไปจัดเตรียมภัตตาหาร ณ บ้านของราชคหเศรษฐี วันรุ่งขึ้นก็ได้ถวาย ภัตตาหารแก่ภิกษุสงฆ์มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นประมุข เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าเสวยเสร็จแล้ว ท่านได้ กราบทูลว่า “ขอพระองค์พร้อมกับภิกษุสงฆ์ จงทรงรับอาราธนาอยู่จำพรรษาในเมืองสาวัตถีของข้า พระพุทธเจ้า” พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า “ดูก่อนคหบดี พระตถาคตทั้งหลาย ย่อมยินดีในสุญญาคาร” ท่าน กราบทูลว่า “ทราบเกล้าแล้ว พระพุทธเจ้าข้า” สร้างวัดพระเชตวัน เมื่อท่านเสร็จกิจในเมืองราชคฤห์แล้ว จึงกลับไปสู่พระนครสาวัตถีเพื่อเตรียมสร้างวัดรองรับ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าและภิกษุสงฆ์ ท่านเที่ยวตรวจดูพระนครสาวัตถีโดยรอบเพื่อหาสถานที่สร้างวัด โดย ยึดหลักว่า (1) ไม่ไกลและไม่ใกล้กับหมู่บ้านเกินไป (2) มีการคมนาคมสะดวก ไปมาได้ง่าย (3) กลางวันมีคนน้อย กลางคืนเงียบสงบ (4) เป็นสถานเหมาะแก่เจริญสมาธิภาวนา อนาถบิณฑิกคหบดีได้เห็นพระอุทยานของเจ้าเชตราชกุมารซึ่งเป็นสถานที่เหมาะสมตามหลักการ ดังกล่าว จึงเข้าเฝ้าเจ้าเชตราชกุมารเพื่อขอซื้ออาราม เจ้าเชตรับสั่งว่า ท่านคหบดี จะต้องซื้อด้วยการลาด ทรัพย์เป็นโกฏิ อนาถบิณฑิกคหบดีจึงสั่งให้คนเอาเกวียนบรรทุกเงิน 18 โกฏิ ออกมาเรียงลาดริมจดกันเต็ม พื้นที่ในอารามนั้นเพื่อซื้อที่ดิน จากนั้นได้ใช้ทรัพย์อีก 18 โกฏิ เพื่อสร้างอาคารต่าง ๆ ในวัด เมื่อสร้างเสร็จแล้วท่านได้กราบทูลถามพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า “ข้าพระพุทธเจ้าจะปฏิบัติ บ ท ที่ 8 อุ บ า ส ก อุบาสิกา : ผู้นั่ง ใกล้ พระรัตนตรัย DOU 231
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More