กฎแห่งกรรมในพระพุทธศาสนา GB 101 ความรู้พื้นฐานทางพระพุทธศาสนา หน้า 177
หน้าที่ 177 / 270

สรุปเนื้อหา

ในบทนี้จะกล่าวถึงกฎแห่งกรรมในพระพุทธศาสนา โดยเน้น 5 ประเด็นสำคัญ เช่น วิบากกรรมเป็นเรื่องอจินไตย และระดับการให้ผลของกรรม โดยแบ่งออกเป็น 4 ระดับ คือ ระดับจิตใจ บุคลิกภาพ วิถีชีวิต และปรโลก การเข้าใจวิบากกรรมนั้นยากสำหรับผู้ที่ไม่เข้าถึงพระธรรมกาย และการศึกษาความเป็นไปของกรรมก็มีความซับซ้อนเหมือนการทำอาหารที่ไม่สามารถรู้ได้ว่าอาหารแต่ละอย่างส่งผลออกมาอย่างไรอย่างชัดเจน แต่รู้รวมๆ ว่ามาจากที่เรากิน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิต โดยการทำกุศลกรรมจะส่งผลให้มีสุขภาพใจที่ดีขึ้น

หัวข้อประเด็น

-วิบากของกรรม
-ระดับการให้ผลของกรรม
-การเจริญสมาธิภาวนา
-การเข้าใจกรรม
-พระไตรปิฎก

ข้อความต้นฉบับในหน้า

6.7 กฎแห่งกรรมในพระพุทธศาสนา ในหัวข้อนี้จะกล่าวเพิ่มเติมจากหัวข้อ 3.2.3 ของบทที่ 3 อีก 5 ประเด็นคือ วิบากแห่งกรรมเป็น เรื่องอจินไตย ระดับการให้ผลของกรรม สัตว์โลกแตกต่างกันเพราะกรรม ตัวอย่างผลของกรรมในปัจจุบัน และกฎแห่งกรรมกับหลักวิทยาศาสตร์ 6.7.1 วิบากแห่งกรรมเป็นเรื่องอจินไตย พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ในอจินติตสูตรว่า “วิบากแห่งกรรม เป็นอจินไตยไม่ควรคิด ผู้ที่คิด ก็ จะพึงมีส่วนแห่งความเป็นบ้า ได้รับความลำบากเปล่า” การรู้แจ้งในวิบากกรรมนั้นเป็นวิสัยของผู้เข้าถึง พระธรรมกายในตัวด้วยการเจริญสมาธิภาวนา แล้วใช้จักษุและญาณทัสสนะของพระธรรมกายตรวจดู ความเป็นไปแห่งเหตุและผลของกรรมและวิบากต่างๆ บุคคลทั่วไปที่ไม่เข้าถึงพระธรรมกายไม่อาจจะรู้แจ้งได้ เปรียบเสมือนเด็กอนุบาลไม่อาจจะเข้าใจความรู้ในขั้นสูงอย่างฟิสิกส์และแคลคูลัสได้ แม้บางเรื่องอาจจะพอตรองดูได้ เช่น เด็กที่ทำกรรมคือขยันเรียนหนังสือ ย่อมได้วิบากคือเรียน หนังสือได้ดีขึ้น อันนี้เป็นเรื่องพื้นฐานที่พอตรองได้ แต่บางกรณีเกินวิสัยของชาวโลกทั่วไป ได้แก่ วิบาก กรรมจากอดีตชาติ เป็นต้น ไม่ว่าจะคิดอย่างไรก็ไม่อาจจะทราบชัดว่า กรรมใดบ้างที่ส่งผลให้เรามีสภาพ ชีวิตอย่างนี้ในปัจจุบัน ถึงแม้พอจะเทียบเคียงกับกรรมและวิบากบางอย่างในพระไตรปิฎกก็ยังไม่ชัดแจ้งอยู่ดี เพราะกรรมที่มนุษย์แต่ละคนประกอบไว้ในอดีตชาติมีแตกต่างหลากหลาย และวิบากอย่างเดียวกันอาจมี สาเหตุหลายประการ จึงไม่อาจรู้ได้อย่างแน่ชัดว่า กรรมใดเป็นต้นเหตุแห่งวิบากนั้น ๆ อุปมาเหมือนเวลา เรารับประทานอาหาร จะมีกับข้าวหลายอย่าง อาหารเหล่านั้นก็จะแปรเปลี่ยนไปเป็นเลือดเป็นเนื้อ เราไม่ อาจจะระบุได้ว่า เนื้อส่วนไหนมาจากอาหารชนิดใด แต่รู้โดยรวม ๆ ว่ามาจากอาหารที่เรากินแต่ละมื้อ ง 6.7.2 ระดับการให้ผลของกรรม ระดับของวิบากหรือผลของกรรมที่กล่าวแล้วในบทที่ 3 นั้นกล่าวไว้ 2 ระดับ ได้แก่ ระดับแรก คือ การเกิดขึ้นของบุญและบาปหลังจากได้ประกอบกุศลกรรมและอกุศลกรรม ระดับที่สอง คือ ผลของบุญ และบาปนั้นจะส่งผลให้ผู้เป็นเจ้าของมีวิถีชีวิตไปตามกรรมต่าง ๆ ที่ทำเอาไว้ สำหรับในหัวข้อนี้จะขยายความระดับของวิบากกรรมออกเป็น 4 ระดับ คือ ระดับจิตใจ ระดับ บุคลิกภาพ ระดับวิถีชีวิต และ ระดับปรโลก ดังนี้ 1) ระดับจิตใจ ถ้าเป็นบุญก็จะทำให้สุขภาพใจดีขึ้นคือ เป็นสุขใจ มีใจเยือกเย็น ตั้งมั่น และ สมรรถภาพของใจก็จะดีขึ้นด้วย คือ ใจจะสะอาดผ่องใส ใช้คิดเรื่องราวต่าง ๆ ได้รวดเร็ว ว่องไว ลึกซึ้ง กว้าง ไกล รอบคอบ เป็นระเบียบ และตัดสินใจได้ฉับพลันถูกต้องไม่ลังเล ผลดังกล่าวนี้จะเกิดขึ้นเมื่อได้ทำกุศลกรรม ได้แก่ ให้ทาน รักษาศีล และเจริญภาวนาอย่างต่อเนื่อง 1 พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย จตุกนิกาต, อจินติตสูตร, มก., เล่ม 35 ข้อ 77 หน้า 235, บ ท ที่ 6 พระ ธ ร ร ม : คำสั่ง ส อ น ข อ ง พ ร ะ ส ม ม า สั ม พุ ท ธ เจ้า DOU 167
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More