ข้อความต้นฉบับในหน้า
อย่างไรในพระเชตวันวิหาร พระพุทธเจ้าข้า” พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า “คหบดี เธอจงถวายพระเชตวัน
วิหารแก่สงฆ์จากทิศทั้ง 4 ทั้งที่มาแล้วและยังไม่มา” อนาถบิณฑิกคหบดีก็ได้ปฏิบัติตามนั้น ต่อมาท่าน
เศรษฐีได้บริจาคทรัพย์อีก 18 โกฏิ เพื่อทำบุญฉลองวัดพระเชตวัน เมื่อรวมทรัพย์ทั้งหมดที่เนื่องด้วยการ
สร้างวัดพระเชตวันเป็นเงินมากถึง 54 โกฏิทีเดียว
ไปสร้างบุญที่วัดวันละ 2 เวลา
ท่านอนาถบิณฑิกมหาเศรษฐี จะไปสู่ที่อุปัฏฐากพระตถาคตเจ้าวันละ 2 ครั้งเป็นประจำ เมื่อไปก็
ไม่เคยไปมือเปล่า เพราะคิดว่า “ภิกษุหนุ่มและสามเณร จักแลดูมือตน โดยนึกว่า เศรษฐีนั้นถืออะไรมาบ้าง
เมื่อไปก่อนเวลาฉันอาหารจะให้คนถือภัตตาหารไป เมื่อไปหลังเวลาฉันอาหาร จะใช้ให้คนถือน้ำปานะและ
เภสัช 5 ไป คือ เนยใส เนยข้น น้ำมัน น้ำผึ้ง และน้ำอ้อย ในเวลาเย็น ท่านจะนำดอกไม้ ของหอม เครื่อง
ลูบไล้ และผ้า เป็นต้น ไปสู่วิหาร ท่านเศรษฐีถวายทาน รักษาศีลอยู่อย่างนี้ทุก ๆ วัน และยังนิมนต์พระสงฆ์
ไปฉันที่เรือนของตนครั้งละ 2,000 รูปอยู่เป็นนิตย์ เมื่อพระภิกษุรูปใดปรารถนาของสิ่งใด จะเป็นข้าว น้ำ
หรือเภสัชก็ตาม ท่านก็จะจัดให้โดยไม่ขาดตกบกพร่องเลย
แม้ทรัพย์หร่อยหรอก็ไม่เลิกให้ทาน
ช่วงหนึ่งทรัพย์ของท่านเศรษฐีหร่อยหรอลงเพราะเพื่อนพ่อค้าได้กู้เงินท่านไป 18โกฏิแล้วยังไม่ให้คืน
ทรัพย์อีก 18 โกฏิที่ฝังไว้ใกล้ฝั่งแม่น้ำ ก็ถูกน้ำเซาะจมหายไปในมหาสมุทร แม้เป็นอย่างนี้ท่านก็ยังถวาย
ทานแก่สงฆ์เรื่อยไป วันหนึ่ง พระศาสดารับสั่งว่า “คฤหบดี ท่านยังให้ทานอยู่หรือ” ท่านกราบทูลว่า “ข้า
พระองค์ยังให้ทานอยู่ แต่ทานนั้นใช้ข้าวปลายเกวียนและน้ำผักดอง พระเจ้าข้า” พระศาสดา ตรัสกะท่าน
ว่า “ท่านอย่าคิดว่า เราถวายทานเศร้าหมองเลย ด้วยว่าเมื่อจิตประณีตแล้ว ทานที่บุคคลถวายแด่พระ
อรหันต์ทั้งหลายมีพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นต้น ชื่อว่าเศร้าหมองย่อมไม่มี”
เทวดาซึ่งสถิตอยู่ที่ซุ้มประตูของเศรษฐีทราบว่า ท่านกำลังลำบาก จึงคิดจะเตือน และได้เข้าไป
บอกเศรษฐีว่า “ท่านจงเลิกบริจาคทรัพย์เกินกำลัง แล้วทำงานรวบรวมสมบัติไว้เถิด”
ท่านเศรษฐีกล่าวว่า “ไปเถิดท่าน แม้บุคคลเช่นท่านตั้งแสนคน ก็ไม่อาจให้ข้าพเจ้าหวั่นไหวได้ ท่าน
กล่าวคำไม่สมควร จงออกไปจากเรือนของข้าพเจ้าเร็ว ๆ”
เทวดานั้นฟังคำของเศรษฐีแล้ว ไม่อาจดำรงอยู่ได้จึงพาทารกทั้งหลายออกไป เมื่อออกไปแล้ว
ไม่ได้ที่อยู่ในที่อื่น จึงคิดว่าเราจักให้ท่านเศรษฐีอภัยโทษแล้วอยู่ในที่เดิมนั้น แต่ไม่รู้จะทำอย่างไรเพื่อให้
เศรษฐีอภัยให้ได้ ต่อมาเขาได้คำแนะนำจากท้าวสักกเทวราชว่า “ท่านจงแปลงเพศเป็นเสมียนของเศรษฐี
แล้วไปตามทรัพย์ 18 โกฏิ ที่พวกพ่อค้ายืมไปมาคืน นำทรัพย์อีก 18 โกฏิที่จมลงในมหาสมุทรขึ้นมา และ
นำทรัพย์อีก 18 โกฏิ ซึ่งไม่มีเจ้าของจากที่โน้นมา จงรวบทรัพย์ทั้งหมดบรรจุไว้ให้เต็มในห้องเปล่าของเศรษฐี
จากนั้นจึงขอขมาโทษท่านเสีย” เมื่อเทวดาได้ทำอย่างนั้นแล้วเศรษฐีก็ให้อภัยและให้อยู่ที่เดิม
เศรษฐีร่ำรวยเหมือนเดิมเพราะบุญ
232 DOU
บทที่ 8 อุ บ า ส ก อุบาสิกา : ผู้นั่งใกล้ พระรัตนตรัย