ความสุขจากการทำบุญ GB 101 ความรู้พื้นฐานทางพระพุทธศาสนา หน้า 178
หน้าที่ 178 / 270

สรุปเนื้อหา

การศึกษาโดยมหาวิทยาลัยบริติช โคลัมเบียและโรงเรียนธุรกิจฮาวาร์ดแสดงให้เห็นว่า คนที่ให้ทานจะรู้สึกมีความสุขมากยิ่งขึ้น เมื่อแจกเงินให้คนอื่น ผลลัพธ์นี้ขัดแย้งกับคนที่ทำบาป ซึ่งจะนำไปสู่ความวิตกกังวลและอาการไม่สงบ ชีวิตบุคคลที่ทำบุญจะมีจิตใจที่มีสุขภาพดีขึ้น ผิวพรรณดีขึ้น และมีบุคลิกภาพที่ดี โดยการทำบุญในอดีตมีผลต่อชีวิตในปัจจุบัน เมื่อมีความพยายามทำดีต่อไป ผลบุญจะค่อย ๆ รอให้ผลในอนาคต คุณภาพชีวิตได้รับผลกระทบจากบุญและบาปในระดับวิถีชีวิต

หัวข้อประเด็น

-การทำบุญและความสุข
-ผลกระทบจากการให้ทาน
-บุคลิกภาพและจิตใจ
-การทำบาปและความวิตกกังวล
-หลักการส่งผลของบุญและบาป

ข้อความต้นฉบับในหน้า

นักวิจัยของมหาวิทยาลัยบริติช โคลัมเบีย ร่วมกับโรงเรียนธุรกิจฮาวาร์ดได้ทำการทดลองเรื่อง ความสุขจากการให้ทานจากชาวอเมริกันไม่ต่ำกว่า 630 คน พบว่า พวกเขารู้สึกเป็นสุขอย่างวัดได้มากขึ้น เมื่อได้แจกเงินให้กับคนอื่น ศาสตราจารย์เอลิสเบธ ดันน์ กล่าวว่า “มันไม่สำคัญว่า คนเราหาเงินได้มากเท่าไร หากแต่คนที่มีโอกาสให้เงินช่วยเหลือคนอื่น ต่างบอกว่ารู้สึกเป็นสุขมากขึ้น โดยที่คนที่เอาไปใช้จ่ายของ ตนเองก็ไม่เกิดความรู้สึกเช่นนี้” หากเป็นบาปก็จะส่งผลในทางตรงกันข้ามคือ สุขภาพและสมรรถภาพของใจจะแย่ลงไปเรื่อยๆ ได้แก่ เป็นทุกข์ใจ วิตกกังวล ระแวง เช่น คนที่ลักขโมย ก็จะหวาดระแวงอยู่เสมอว่าอาจจะถูกจับขังคุกได้ คนที่ เคยฆ่าคนตาย ก็ต้องอยู่แบบหลบ ๆ ซ่อน ๆ ทั้งกลัวถูกแก้แค้นและกลัวกฎหมายบ้านเมือง เป็นต้น บุคคล ที่ทำอกุศลกรรมจะมีใจที่ขุ่นมัวอยู่เป็นประจำ จึงทำให้ความคิด ไม่แจ่มใส จิตใจไม่เบิกบาน ส่งผลให้การงาน ต่าง ๆ ที่ทำด้อยคุณภาพ ๆ 2) ระดับบุคลิกภาพ คนที่ทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนา อย่างสม่ำเสมอ จะทำให้มีใจที่สงบ แช่มชื่น เบิกบาน ชุ่มเย็น นอนหลับสบาย ไม่มีความกังวลหม่นหมอง ส่งผลให้มีหน้าตาผิวพรรณผ่องใส มี ความมั่นใจในตัวเอง มีความองอาจสง่างาม ไปถึงไหนก็สามารถวางตัว ได้พอเหมาะพอดี บุคลิกภาพจะ ดีขึ้นเป็นลำดับ ส่วนบุคลิกภาพของคนที่ทำอกุศลกรรมจะมีลักษณะตรงข้าม ได้แก่ ก้าวร้าว ไม่องอาจ ใจลอย ขาดความมั่นใจในตัวเอง ฯลฯ เช่น คนที่ฆ่าสัตว์อยู่เป็นประจำจะบ่มเพาะความโหดเหี้ยมไว้ในใจ และจะ ส่งผลสู่บุคลิกภายนอก ทำให้ดูน่ากลัว ไม่น่าเข้าใกล้ คนที่มักโกรธจะทำให้แก่เร็ว เพราะเวลาโกรธไฟโทสะ จะเผาลนจิตใจและร่างกายให้ร้อน จึงทำให้ผิวหนังเหี่ยวแห้งเร็วกว่าปกติ คนที่โกหกมักจะไม่กล้าสบตา ทำให้ สังเกตได้ว่ามีอะไรซ่อนอยู่ในใจ นี้เป็นตัวอย่างบุคลิกภาพอันเกิดจากบาป 3) ระดับวิถีชีวิต หลักการส่งผลของบุญและบาปในระดับวิถีชีวิตคือ บุญและบาปในอดีตชาติ จะส่งผลก่อนและส่งผลอย่างเต็มที่ เปรียบเสมือนต้นไม้ใหญ่ซึ่งปลูกไว้นานแล้ว จึงมีความพร้อมในการผลิดอก ออกผล ส่วนต้นไม้ที่เพิ่งปลูกก็เปรียบเสมือนบุญและบาปใหม่ จึงต้องรอเวลาให้มันเจริญเติบโตสักระยะ หนึ่งจึงจะให้ผล ดังนั้นวิถีชีวิตของมนุษย์แต่ละคนในชาตินี้หรือในทุก ๆ ชาติที่เกิดนั้น ก็ขึ้นอยู่กับบุญและ บาปที่ได้ทำไว้ในอดีตชาติเป็นหลักคือ ประมาณ 70-80% ส่วนบุญและบาปใหม่เป็นเพียงส่วนเสริมเท่านั้นคือ ส่งผลในชาตินี้เพียงประมาณ 20-30% แต่จะส่งผลอย่างเต็มที่ในภพชาติหน้า บางคนเข้าใจผิดคิดว่าทำดีแล้วไม่ได้ดี เพราะบางครั้งขณะที่เราตั้งใจทำความดีอยู่ กลับถูกใส่ร้าย ป้ายสี หรือประสบเคราะห์กรรม ทำให้หมดกำลังใจในการทำความดี แท้จริงแล้ว ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะในขณะนั้น ผลบาปที่เราเคยทำในอดีตกำลังส่งผลอยู่ แต่บุญที่กำลังทำอยู่ในปัจจุบันย่อมไม่ได้ผล เมื่อเราตั้งใจทำบุญ ไปโดยไม่ย่อท้อ บุญย่อมจะค่อย ๆ ส่งผลให้เคราะห์กรรมนั้นหมดสิ้นไป และได้รับความสุขความสำเร็จได้ ในที่สุด ๆ 1 ไทยรัฐ (2551), ความสุขอยู่ที่การทำบุญทำทาน แม้เพียงเล็กน้อยแต่ก็สุขใจยิ่ง (ออนไลน์) 168 DOU บ ท ที่ 6 พระ ธ ร ร ม : คำสั่ง ส อ น ข อ ง พ ร ะ สัมมา สัมพุทธเจ้า
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More