ข้อความต้นฉบับในหน้า
บทที่ 4
พระรัตนตรัย : แก่นของพระพุทธศาสนา
4.1 พระรัตนตรัยคืออะไร
คำว่า พระรัตนตรัย มาจากคำ 3 คำ คือ พระ + รัตนะ + ตรัย
คำว่า “พระ” แปลว่า “ประเสริฐ” คำว่าพระนี้ใช้สำหรับประกอบหน้าคำอื่นเพื่อแสดงความยกย่องว่า
สิ่งนั้น ๆ มีความประเสริฐ
คำว่า “รัตนะ” แปลว่า แก้ว
คําว่า “ตรัย” แปลว่า สาม
ดังนั้น พระรัตนตรัย จึงแปลว่า แก้วอันประเสริฐ 3 ประการ ได้แก่ พุทธรัตนะ : แก้วคือพระพุทธ
ธรรมรัตนะ : แก้วคือพระธรรม และ สังฆรัตนะ : แก้วคือพระสงฆ์
พระรัตนตรัยเป็นรัตนะที่ประณีตและเลิศ หรือประเสริฐกว่ารัตนะและทรัพย์ทั้งหลายทั้งปวง
กล่าวคือ ไม่มีรัตนะและทรัพย์อันใดจะเสมอเหมือนหรือเทียบได้กับพระรัตนตรัย ดังที่บันทึกไว้ในรัตนสูตรว่า
ทรัพย์เครื่องปลื้มใจอย่างใดอย่างหนึ่งในโลกนี้ หรือในโลกอื่น หรือรัตนะใด
อันประณีตในสวรรค์ ทรัพย์และรัตนะนั้น เสมอด้วยพระตถาคตไม่มีเลย พุทธรัตนะ แม้
นี้เป็นรัตนะอันประณีต.....
...พระศากยมุนีมีพระหฤทัยดำรงมั่น ได้บรรลุธรรมอันใดเป็นที่สิ้นกิเลส เป็นที่
สำรอกกิเลส เป็นอมฤตธรรมอันประณีต ธรรมชาติอะไร ๆ เสมอด้วยพระธรรมนั้น
ย่อมไม่มี ธรรมรัตนะ แม้นี้เป็นรัตนะอันประณีต....
...บุคคล 8 จำพวก 4 คู่ อันสัตบุรุษทั้งหลายสรรเสริญแล้ว บุคคลเหล่านั้น
ควรแก่ทักษิณาทานเป็นสาวกของพระตถาคต ทานที่บุคคลถวายแล้วในท่านเหล่านั้น
ย่อมมีผลมาก สังฆรัตนะ แม้นี้เป็นรัตนะอันประณีต....
พระตถาคต หรือ พระศากยมุนี ก็คือพระพุทธ หรือพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั่นเอง
บุคคล 8 จำพวก 4 คู่ หมายถึง พระอริยสงฆ์ หรืออริยบุคคลตั้งแต่พระโสดาปัตติมรรค จนถึง
พระอรหัตตผล ดังนี้ คู่ที่หนึ่งคือ พระโสดาปัตติมรรคและพระโสดาปัตติผล, คู่ที่สองคือ พระสกทาคามิมรรค
และพระสกทาคามิผล, คู่ที่สามคือ พระอนาคามิมรรคและพระอนาคามิผล คู่ที่สี่คือ พระอรหัตตมรรคและ
1
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ขุททกปาฐ ธรรมบท ฉบับสยามรัฐ, เล่ม 25 ข้อ 7 หน้า 3-6
70 DOU บ ท ที่ 4 พ ร ะ รั ต น ต ร ย : แก่ น ข อ ง พ ร ะ พุ ท ธ ศ า ส น า