ข้อความต้นฉบับในหน้า
เพื่อฟังพระปาฏิโมกข์ทุกกึ่งเดือน, การประชุมเพื่อตัดสินอธิกรณ์ที่เกิดขึ้น, การประชุมเพื่อฟังธรรมจาก
พระสัมมาสัมพุทธเจ้า, การประชุมเพื่อแต่งตั้งภิกษุให้รับผิดชอบงานหมู่คณะ, การประชุมเพื่อทำสังฆกรรม
ต่าง ๆ เช่น เข้าพรรษา ออกพรรษา ปวารณา กฐิน เป็นต้น การประชุมเพื่อสมมติสถานที่เพื่อใช้ทำกิจสงฆ์
เช่น สมมติอุโบสถ เป็นต้น
ๆ
สาเหตุสำคัญที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงให้ความสำคัญกับการประชุมโดยให้ภิกษุประชุมกันบ่อยๆ
นั้นมีหลายประการ
ประการแรก เพื่อต้องการให้พระภิกษุทุกรูปมีส่วนร่วมในการบริหารหมู่คณะ ความรักในหมู่คณะ
ก็จะเกิดขึ้น เมื่อพระองค์และพระอริยบุคคลรุ่นบุกเบิกปรินิพพานไปหมดแล้ว ภิกษุรุ่นหลังจะได้ช่วยกัน
สืบทอดพระพุทธศาสนาต่อไปได้
ประการที่สอง เมื่อประชุมกันจะช่วยให้เห็นภาพตรงกัน เข้าใจกัน จะทำให้การทำงานพระศาสนา
เป็นไปในทิศทางเดียวกัน สร้างความสำเร็จได้ดีกว่าการทำไปคนละทิศละทาง
ประการที่สาม เพื่อสร้างความสามัคคีให้เกิดขึ้นในหมู่สงฆ์ เพราะเมื่อได้มาเจอหน้าเจอตากัน ทำให้
มีความคุ้นเคยกัน จะเข้าใจซึ่งกันและกัน จะอยู่ร่วมกันอย่างเป็นสุข ไม่เป็นในลักษณะต่างคนต่างอยู่
ประการที่สี่ ก่อนพระสัมมาสัมพุทธเจ้าปรินิพพานพระองค์ตรัสว่า “ธรรมวินัย” ที่ตรัสไว้ดีแล้วจะ
เป็นศาสดาแทนพระองค์ต่อไป นัยของพระดำรัสนี้คือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าประสงค์ให้คณะสงฆ์ร่วมกัน
บริหารจัดการหมู่คณะโดยยึดธรรมวินัยเป็นแบบแผน คล้าย ๆ กับเป็นรัฐธรรมนูญสูงสุดขององค์กรสงฆ์
ดังนั้นเมื่อจะทำอะไร เมื่อมีปัญหาอะไร เมื่อจะตัดสินใจอะไร จึงต้องประชุมสงฆ์เพื่อร่วมกันพิจารณาหลัก
ธรรมวินัยแล้วสรุปเป็นหลักปฏิบัติเป็นต่อไป
7.7.2 พร้อมกันประชุมและพร้อมกันทำกิจที่สงฆ์พึงทำ
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า ภิกษุทั้งหลายยังจักพร้อมเพรียงกันประชุม จักพร้อมเพรียงกันเลิก
ประชุม จักพร้อมเพรียงกันทำกิจที่สงฆ์พึงทำ ตลอดกาลเพียงไร ภิกษุทั้งหลายพึงหวังความเจริญอย่างเดียว
หาความเสื่อมมิได้
ปัจจุบันชาวโลกตระหนักถึงความสำคัญในเรื่องความพร้อมเพียงกันทำงาน หรือที่เรียกว่าการ
ทำงานเป็นทีมมาก จะเห็นได้จากมีหนังสือที่กล่าวถึงเรื่องนี้ออกมาสู่ท้องตลาดมากมาย โดยเฉพาะในมุม
หนังสือบริหารธุรกิจ ทั้งนี้เพราะชาวโลกต่างเห็นพ้องต้องกันว่า หากทำงานไปคนละทิศคนละทางกัน นอกจาก
จะไม่มีพลังแล้วยังขัดขากันเองได้ง่ายอีกด้วย เป็นเหตุให้ประสบความล้มเหลวในที่สุด และที่สำคัญมนุษย์
แต่ละคนนั้นมีความสามารถจำกัด จึงต้องอาศัยความสามารถที่แตกต่างหลากหลายของแต่ละคนมารวมกัน
สร้างพลังทีมขึ้นมา งานที่ทำจึงจะสำเร็จสมบูรณ์และทันเวลา
การจะหาคนที่สมบูรณ์พร้อมในทุก ๆ ด้านทำได้ทุกอย่างนั้นยากมาก พุทธันดรหนึ่งมีได้อย่างมาก
หนึ่งพระองค์ กับหนึ่ง ๆ มิได้อย่างมากเพียงห้าพระองค์เท่านั้นคือ “พระสัมมาสัมพุทธเจ้า” แต่ถึงกระนั้น
พระองค์ก็ยังให้ความสำคัญกับทีมและเสาะหาทีมงานเพื่อให้มาช่วยกันเผยแผ่พระพุทธศาสนา
ๆ
208 DOU บ ท ที่ 7 พระสงฆ์ : ส า ว ก ข อ ง พ ร ะ สัมมา สัมพุทธเจ้า