พระพุทธองค์และการแจกธรรมะ GB 101 ความรู้พื้นฐานทางพระพุทธศาสนา หน้า 117
หน้าที่ 117 / 270

สรุปเนื้อหา

พระพุทธองค์ทรงแยกย่อยธรรมะให้เหมาะสมกับสติปัญญาของผู้ฟัง เช่น การตักข้าวที่เหมาะสมแก่ผู้รับ โดยพระพุทธคุณมี 3 ประการ คือ พระบริสุทธิคุณ, พระปัญญาคุณ และพระมหากรุณาธิคุณ พระประวัติพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาจากการประสูติของเจ้าชายสิทธัตถะ ที่เกิดขึ้นในสวนลุมพินี และมีการทำนายจากพราหมณ์เกี่ยวกับอนาคตของพระองค์

หัวข้อประเด็น

- พระพุทธคุณ
- การแจกธรรมะ
- ประวัติพระพุทธเจ้า
- ธรรมะในชีวิตประจำวัน
- การศึกษาในพระพุทธศาสนา

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ที่ว่า แจก นั้นมีความหมายว่า พระพุทธองค์ทรงแยกย่อยธรรมะออกเป็นข้อเล็กข้อน้อย ให้เหมาะสมกับสติปัญญาของผู้ฟัง เปรียบเสมือนการบิขนมหรือการตักข้าวให้พอคำแก่คนกิน เด็กก็ต้องให้ คำเล็ก ผู้ใหญ่ก็ตักให้คำโต หรือคนป่วยก็ตักเอาชนิดอาหารเปื่อย อาหารตุ้นที่ย่อยง่าย ๆ มาให้ ส่วนที่ ปัญญาแก่กล้าแล้วก็ไม่ต้องย่อยให้มากนัก สอนเพียงย่อ ๆ เฉพาะแต่หัวข้อธรรมที่เข้าใจทันที และธรรมะที่ ทรงแยกย่อยไว้ดีแล้วนี้ยังช่วยให้ผู้ที่มาในภายหลังสามารถเลือกธรรมะที่พอเหมาะกับตนเอาไปปฏิบัติได้ พระพุทธคุณทั้ง 9 ประการนี้สรุปให้เหลือ 3 ประการได้ดังนี้คือ พระบริสุทธิคุณ, พระ ปัญญาคุณ และ พระมหากรุณาธิคุณ พระบริสุทธิคุณ ได้แก่ อรห์, สุคโต และ พุทฺโธ, พระปัญญาคุณ ได้แก่ สมฺมาสมฺพุทฺโธ, วิชชาจรณสมฺปนฺโน และ โลกวิทู พระมหากรุณาธิคุณ ได้แก่ อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถ, สตฺถา เทวมนุสสาน และ ภควา 5.3 พุทธประวัติ เมื่อ 2,500 กว่าปีที่ผ่านมามีมหาบุรุษท่านหนึ่งอุบัติขึ้นบนโลกท่านเป็นพระราชโอรสแห่งกรุงกบิลพัสดุ์ พระบิดาพระนามว่า พระเจ้าสุทโธทนะ พระมารดาพระนามว่า พระนางสิริมหามายา ซึ่งเป็นเจ้าหญิงแห่ง โกลิยะวงศ์จากกรุงเทวทหะ เมื่อพระนางสิริมหามายาทรงครรภ์ครบทศมาส ทรงขอลาพระสวามีเพื่อกลับ ไปมีพระประสูติกาลที่กรุงเทวทหะเมืองของพระองค์ตามธรรมเนียมในครั้งนั้น ครั้นเดินทางมาได้ครึ่งทาง ถึงสวนสาธารณะใหญ่ชื่อ “ลุมพินี” พระนางเกิดประชวรพระครรภ์และได้ประสูติพระโอรส ณ ใต้ต้นรังใหญ่ ในวันเพ็ญเดือนหกเวลาใกล้เที่ยงก่อนพุทธศักราช 80 ปี หลังจากประสูติได้ 5 วัน พระเจ้าสุทโธทนะเชิญพราหมณาจารย์จำนวน 108 ท่านมาฉันโภชนาหาร และให้เลือกเหลือเพียง 8 ท่านเฉพาะผู้เชี่ยวชาญในวิชาลักษณะพยากรณ์เพื่อทำหน้าที่พิจารณาทำนาย ลักษณ์ของพระโอรสและขนานพระนาม พราหมณ์ 7 ท่านแรกเห็นลักษณะของพระโอรสแล้วได้ทำนายเป็น 2 นัย คือ ถ้าพระโอรสอยู่ เรือนจะได้เป็นพระจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่หากออกผนวชจะได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าศาสดาเอกของโลก ส่วนโกญฑัญญพราหมณ์ซึ่งมีอายุน้อยที่สุดในพราหมณ์ 8 ท่านนั้น ได้ทำนายชี้ชัดลงไปว่า พระโอรส นี้จะ ออกผนวชและตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างแน่นอน จากนั้นพราหมณ์ทั้งหมดก็มีความเห็นตรงกัน ที่จะขนานพระนามพระโอรสว่า “สิทธัตถะ” หรือ “สิทธารถ” ซึ่งแปลว่า สำเร็จดังปรารถนา หลังจากนั้น 2 วัน คือเมื่อพระโอรสมีพระชนมายุได้ 7 วัน พระนางสิริมหามายาก็สิ้นพระชนม์ เจ้าชายสิทธัตถะจึงอยู่ ในการเลี้ยงดูของพระนางมหาปชาบดี ซึ่งเป็นพระน้านางและเป็นมเหสีองค์ที่ 2 ของพระเจ้าสุทโธทนะ เจ้าชายสิทธัตถะมีพระอนุชาและพระขนิษฐาร่วมพระชนกที่ประสูติจากพระนางมหาปชาบดี 2 พระองค์คือ พระนันทะ และ พระนางรูปนันทา และยังมีลูกพี่ลูกน้องในศากยะวงศ์รุ่นราวคราวเดียวกัน อีกหลายพระองค์คือ เจ้ามหานามะ เจ้าอนุรุทธะ ซึ่งเป็นโอรสของพระเจ้าอาสุกโกทนะ เจ้าอานนท์ โอรส บ ท ที่ 5 5 พ ร ะ พุ ท ธ : พ ร ะ ส ม ม า สั ม พุ ท ธ เจ้า DOU 107
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More