พระโพธิสัตว์และพระพุทธคุณ GB 101 ความรู้พื้นฐานทางพระพุทธศาสนา หน้า 110
หน้าที่ 110 / 270

สรุปเนื้อหา

ผู้ที่ตั้งใจสร้างบารมีเพื่อเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเรียกว่า พระโพธิสัตว์ ซึ่งเป็นบุคคลธรรมดาที่มีความตั้งใจพัฒนาศักยภาพตนเองเมื่อบารมีเต็มเปี่ยมจึงสามารถตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ ในแง่ของความดีงามของพระพุทธเจ้า พระองค์เป็นผู้ชี้แนะแนวทางให้ผู้ที่ต้องการพ้นทุกข์ ในระยะเวลาหลายพันปีก็ไม่อาจมีใครพรรณนาคุณอันประเสริฐของพระองค์ได้ทั้งหมดในขบวนการเรียนรู้ศาสนา โดยยกตัวอย่างการตั้งศาสดาในศาสนาอื่นๆ เช่น อิสลามและซิกข์ โดยทั่วไปตำแหน่งศาสดาในพระพุทธศาสนาเป็นสิทธิที่เปิดกว้างสำหรับทุกคนและไม่ได้ถูกแต่งตั้งโดยพระเจ้าเหมือนศาสนาที่ยึดถือแนวคิดเทวนิยม

หัวข้อประเด็น

-พระโพธิสัตว์
-พระพุทธคุณ
-การเป็นศาสดาในพระพุทธศาสนา
-ความดีงามของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ผู้ที่ตั้งใจสร้างบารมีเพื่อเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้นเรียกว่า “พระโพธิสัตว์” หมายถึงสัตว์ผู้ ปรารถนาพุทธภูมิ พระโพธิสัตว์ก็เป็นปุถุชนคนธรรมดาทั่วไป แต่เป็นผู้ที่มีความตั้งใจพัฒนาศักยภาพตัวเอง ด้วยการสร้างบารมีอย่างแรงกล้า เมื่อบารมีเต็มเปี่ยมแล้วก็ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ สามารถ เป็นศาสดาสอนผู้อื่นให้ตรัสรู้ตามได้ ตำแหน่งศาสดาในพระพุทธศาสนาจึงไม่ได้มีใครมาแต่งตั้งให้ เป็นของ สาธารณะทั่วไปแก่ทุกคน ส่วนศาสนาเทวนิยมทั้งหลายมักกล่าวว่า พระเจ้าเป็นผู้แต่งตั้งศาสดาในศาสนานั้นๆ จึงเป็น ตำแหน่งที่ไม่สาธารณะแก่คนทั่วไป เช่น พระอัลเลาะห์แต่งตั้งให้มุฮัมหมัดเป็นศาสดาสั่งสอนศาสนาอิสลาม เป็นศาสนทูตคือตัวแทนของพระเจ้าบนพื้นพิภพ มีศาสนทูตปรากฏอยู่ในคัมภีร์อัลกุรอาน 25 ท่าน โดย มุฮัมหมัดเป็นศาสนทูตคนล่าสุด... พระอัลเลาะห์จะไม่ส่งศาสนทูตมาอีก ในศาสนาโซโรอัสเตอร์บันทึกไว้ว่า พระเจ้าคือ พระอหุระ มาซดะ แต่งตั้งให้โซโรอัสเตอร์เป็นศาสดาสอนศาสนาของพระองค์” ท่าน “นานัก ศาสดาในศาสนาซิกข์ก็เช่นเดียวกัน วันหนึ่งท่านเข้าไปบำเพ็ญจิตในป่าและได้พบพระเจ้า พระเจ้าทรงยื่น น้ำทิพย์ถ้วยหนึ่งให้นานักดื่ม แล้วบอกให้นานักออกประกาศศาสนา 5.2 พระพุทธคุณ 5.2.1 พระพุทธคุณมีมากสุดพรรณนา คำว่า คุณ ในปัจจุบันใช้ใน 2 ความหมาย คือ ความดีงาม และ คุณประโยชน์ พระพุทธคุณ จึง หมายถึง ความดีงามและคุณประโยชน์ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเคยตรัสไว้ว่า “แม้พระพุทธเจ้าจะพึงพรรณนาคุณของพระพุทธเจ้า หากไม่ ตรัสอย่างอื่นแม้ตลอดกัป กับก็จะพึงหมดสิ้นไปในระหว่างกาลนาน คุณของพระตถาคตทั้งหลายก็ไม่หมดสิ้น” เพราะในท่ามกลางความทุกข์ในสังสารวัฏนี้ไม่มีใครเลยที่จะชี้แนะหนทางพ้นทุกข์ให้แก่ผู้อื่นได้นอกจาก พระพุทธองค์ และการจะเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้นั้นยากมากประดุจการว่ายข้ามทะเลน้ำทองแดงที่ เดือดพล่าน ฉะนั้น การที่พระพุทธองค์ตรัสว่าพระคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแต่ละพระองค์มีมากจนไม่อาจจะ พรรณนาได้หมดนั้น ไม่ได้เป็นการยกยอสรรเสริญพระองค์เอง แต่ตรัสตามความเป็นจริง และที่สำคัญ พระองค์ทรงหมดกิเลสแล้วย่อมไม่ตรัสความเท็จใด ๆ ทั้งสิ้น รศ.ฟื้น ดอกบัว. (2539), ศาสนาเปรียบเทียบ, หน้า 205 รศ.ฟื้น ดอกบัว (2539), ศาสนาเปรียบเทียบ, หน้า 208. * รศ.ฟื้น ดอกบัว, (2539), ศาสนาเปรียบเทียบ, หน้า 77. 4 รศ.ฟื้น ดอกบัว. (2539), ศาสนาเปรียบเทียบ, หน้า 229. กัป หมายถึง หน่วยเวลาที่ยาวนานมากจนไม่อาจจะนับประมาณได้ * ปรมัตถทีปนี อรรถกถาขุททกนิกาย อุทาน, อรรถกถาอาหุสูตร, มก. เล่ม 44 หน้า 609. 100 DOU บ ท ที่ 5 พ ร ะ พุ ท ธ : พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท ท
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More