พระไตรปิฎกและพระธรรมคุณ GB 101 ความรู้พื้นฐานทางพระพุทธศาสนา หน้า 153
หน้าที่ 153 / 270

สรุปเนื้อหา

พระไตรปิฎกฉบับอักษรไทยถูกจัดพิมพ์ขึ้นเป็นครั้งแรกในรัชกาลที่ 5 ระหว่าง พ.ศ. 2431 – 2436 โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งจัดพิมพ์พระไตรปิฎกเป็นรูปเล่มหนังสือ ต่อมาในรัชกาลที่ 7 ได้มีการพัฒนาและจัดพิมพ์พระไตรปิฎกเป็นฉบับสยามรัฐ รวมทั้งการแปลอรรถกถาผนวกเข้าไปในพระไตรปิฎก ทำให้มีจำนวนเล่มรวมเป็น 91 เล่มในปัจจุบัน อรรถกถานั้นเป็นคัมภีร์ที่มีความสำคัญในพระพุทธศาสนาพร้อมกับ ฎีกา และอนุฎีกา ซึ่งเป็นคัมภีร์อธิบายที่จัดทำขึ้นในสมัยต่าง ๆ โดยพระธรรมคุณที่ตรัสไว้ในวัตถุปมสูตรสามารถสรุปได้ถึง 6 ประการ ซึ่งมีการอธิบายให้เห็นถึงความสำคัญของคำสอนที่พระพุทธองค์ตรัสสอนไว้เพื่อการปฏิบัติที่นำไปสู่ความสุขและการหลุดพ้นจากทุกข์

หัวข้อประเด็น

-ประวัติพระไตรปิฎก
-ความสำคัญของพระไตรปิฎก
-พระธรรมคุณและการสอนของพระพุทธองค์
-อรรถกถา ฎีกา และอนุฎีกา
-การพัฒนาคัมภีร์พระพุทธศาสนา

ข้อความต้นฉบับในหน้า

พระไตรปิฎกฉบับอักษรไทยมีขึ้นครั้งแรกในรัชกาลที่ 5 คือในระหว่าง พ.ศ. 2431 – 2436 พระบาท สมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงให้คัดลอกพระไตรปิฎกอักษรขอมในใบลานออกมาเป็นอักษรไทย แล้วชำระแก้ไขและจัดพิมพ์ขึ้นเป็นเล่มหนังสือได้ 39 เล่ม นับเป็นครั้งแรกที่ได้มีการจัดพิมพ์พระไตรปิฎก เป็นรูปเล่มหนังสือด้วยอักษรไทย ในระหว่าง พ.ศ. 2468 – 2473 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ทรงให้ชำระ และจัดพิมพ์พระไตรปิฎกเป็นเล่มหนังสือได้ 45 เล่ม เรียกว่า พระไตรปิฎกฉบับสยามรัฐ พิมพ์ที่มหามกุฎ ราชวิทยาลัย ต่อมามหามกุฏราชวิทยาลัยได้แปลอรรถากถาผนวกรวมเข้าไปในพระไตรปิฎกจึงรวมกันเป็น 91 เล่มอย่างที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันนอกจากนี้ต่อมายังมีพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยอีกด้วย ฉบับล่าสุดจัดพิมพ์ครั้งแรกใน พ.ศ. 2539 อรรถกถานั้นเป็นคัมภีร์อธิบายพระไตรปิฎก ซึ่งแต่งขึ้นประมาณ พ.ศ. 956 และยังมีคัมภีร์อื่น ๆ อีก เช่น ฎีกา และ อนุฎีกา ฎีกาเป็นคัมภีร์อธิบายอรรถกถา แต่งขึ้นประมาณ พ.ศ. 1587 ส่วนอนุฎีกาเป็น คัมภีร์อธิบายฎีกา ทั้ง 4 คัมภีร์ที่กล่าวมาข้างต้นคือ คือ พระไตรปิฎก อรรถกถา ฎีกา และอนุฎีกา เป็น คัมภีร์สำคัญในพระพุทธศาสนา โดยพระไตรปิฎกมีความสำคัญสูงสุด เพราะเป็นพุทธพจน์โดยตรง ส่วน อรรถกถา ฎีกา และอนุฎีกาก็มีความสำคัญลดหลั่นกันลงมาตามลำดับ นอกจากนี้ยังมีคัมภีร์อื่น ๆ อีกมาก แต่จะไม่กล่าวถึงในที่นี้ 6.2 พระธรรมคุณ ๆ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสพระธรรมคุณไว้ในวัตถุปมสูตรว่า “สวากขาโต ภควตา ธมฺโม สนฺทิฏฐิโก อกาลิโก เอหิปสฺสิโก โอปนยิโก ปจฺจตฺต์ เวทิตพฺโพ วิญญูหีติ ฯ” จากพระดำรัสดังกล่าวสามารถสรุปพระธรรมคุณได้ 6 ประการ ซึ่งมีคำอธิบายดังนี้ 1) อธิบายธรรมคุณบทว่า สวากขาโต ภควตา ธมฺโม สวากขาโต ภควตา ธมฺโม แปลว่า พระธรรมอันพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ดีแล้ว บทว่า สวากขาโต แปลว่า ตรัสไว้ดีแล้ว ธรรมที่พระองค์ตรัสสอนนั้นล้วนแต่จะเป็นผลส่งให้ผู้ ประพฤติปฏิบัติตามได้รับความร่มเย็นเป็นสุขทั้งสิ้น และที่ว่าตรัสไว้ดีแล้ว ก็คือไม่มีเสีย คำสอนของพระองค์ ไม่ให้ทุกข์แก่ผู้ปฏิบัติเลย มีแต่จะนำไปสู่สุขอย่างเดียว ธรรมที่พระพุทธองค์ตรัสสอน ได้แก่ มีอริยมรรคองค์ 8 คือ ความเห็นชอบ ความดำริชอบ กล่าว วาจาชอบ ประกอบการงานชอบ หาเลี้ยงชีพชอบ ทำความเพียรชอบ ตั้งสติไว้ชอบ และสมาธิชอบ เมื่อ 2 - พระเมธีธรรมาภรณ์ (ประยูร ธมฺมจิตฺโต) (2538), พระไตรปิฎกปริทัศน์, หน้า 3 สุตฺตนฺตปิฏเก มชฺฌิมนิกายสฺส มูลปณฺณาสก์ วัตถุปมสุตต์ ภาษาบาลี ฉบับสยามรัฐ เล่ม12 ข้อ 95 หน้า 67-67. 3 พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ติกนิบาต, อธิปไตยสูตร, มก. เล่ม 34 ข้อ 479 หน้า 186 บทที่ 6 พระ ธ ร ร ม : คำสั่ง ส อ น ข อ ง พระ สัมมา สัมพุทธเจ้า DOU 143
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More