อานิสงส์การออกบวชเป็นบรรพชิต GB 101 ความรู้พื้นฐานทางพระพุทธศาสนา หน้า 209
หน้าที่ 209 / 270

สรุปเนื้อหา

บทความนี้กล่าวถึงนิสัย 4 ที่นักบวชในพระพุทธศาสนาจะต้องมีเพื่อที่จะอยู่ร่วมกับหมู่คณะ และอานิสงส์ในการออกบวชเป็นบรรพชิต พร้อมแสดงความเปลี่ยนแปลงสถานภาพที่เกิดขึ้นจากการบวช ซึ่งทำให้ผู้บวชได้รับการเคารพและบำรุงด้วยปัจจัย 4 และการเจริญสมาธิภาวนาที่จะทำให้เกิดความสุขอันสูงส่งกว่าสุขทางโลก. สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับอานิสงส์การออกบวชสามารถศึกษาได้ในวิชา SB 304 ชีวิตสมณะ.

หัวข้อประเด็น

-นิสัย 4
-อานิสงส์การออกบวช
-ความสำคัญของการบวชในพระพุทธศาสนา
-การเปลี่ยนแปลงสถานภาพหลังบวช
-ผลดีจากการเจริญสมาธิภาวนา

ข้อความต้นฉบับในหน้า

นอกจากนี้ นิสสัย 4 นี้ยังเป็นเครื่องคัดคนได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ผู้ใดที่ปฏิบัติตามหลักนี้ไม่ได้ เช่น ติดในลาภสักการะไม่มักน้อยสันโดษก็จะอยู่ในหมู่คณะไม่ได้ จะต้องมีเหตุให้ต้องออกจากหมู่คณะไปในที่สุด ด้วยเหตุนี้นักบวชในพระพุทธศาสนาโดยมากจึงมีเฉพาะผู้ที่มีเป้าหมายเพื่อทำพระนิพพานให้แจ้ง นักบวช เหล่านี้จะช่วยกันรักษาและสืบทอดแบบแผนหรือวัฒนธรรมที่ดีเอาไว้ได้ จุดประสงค์หลักที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าบัญญัตินิสสัย 4 ขึ้น เพื่อให้ภิกษุมีความมักน้อยสันโดษใน ปัจจัย 4 ในยุคต้นพุทธกาลภิกษุได้ดำรงชีวิตด้วยนิสสัย 4 นี้เรื่อยมา ภายหลังอุบาสกอุบาสิกาผู้มีศรัทธาได้ กราบขออนุญาตพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า ขอถวายคหบดีจีวรบ้าง นิมนต์พระสงฆ์ไปฉันที่บ้านบ้าง สร้างวัด สร้างวิหารให้ภิกษุอยู่บ้าง ถวายยารักษาโรคบ้าง หมอชีวกโกมารภัจจ์เป็นผู้กราบขออนุญาตพระพุทธองค์ เพื่อถวายคหบดีจีวร เพื่อไม่ให้พระภิกษุมีความกังวลเรื่องการแสวงหาผ้าที่เขาทิ้งแล้วมาทำจีวรราชคหเศรษฐี เป็นผู้ขอสร้างวิหารถวายพระสงฆ์เป็นคนแรกนางวิสาขาเป็นผู้ขออนุญาตถวายภัตต่างๆ มีอาคันตุกภัตเป็นต้น แต่ทั้งนี้พระพุทธองค์ก็ยังสรรเสริญการยินดีปัจจัยตามมีตามได้ดังพุทธานุญาตคหบดีจีวรว่า “ดูก่อน ภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตคหบดีจีวร รูปใดปรารถนา จงถือผ้าบังสุกุล รูปใดปรารถนา จงยินดีคหบดีจีวร แต่เราสรรเสริญการยินดีด้วยปัจจัยตามมีตามได้” 7.5.7 อานิสงส์การออกบวชเป็นบรรพชิต พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสอานิสงส์การออกบวชเป็นบรรพชิตไว้ในสามัญญผลสูตรซึ่งว่าด้วยผล ของความเป็นสมณะ หรืออานิสงส์ที่ได้จากการบวชนั่นเอง สามัญญผลนั้นจะอธิบายอย่างละเอียดใน “วิชา SB 304 ชีวิตสมณะ” ในที่นี้จะกล่าวโดยย่อซึ่งแบ่งเป็น 3 ระดับคือ สามัญญผลเบื้องต้น สามัญญผลเบื้อง กลาง และสามัญญผลเบื้องสูง 1) สามัญญผลเบื้องต้น (1) เป็นการยกสถานภาพของผู้บวชให้สูงขึ้นจากฐานะเดิม กล่าวคือ แม้จะเคยเป็นเพียง ทาสหรือกรรมกร แต่เมื่อออกบวชเป็นบรรพชิตแล้ว ก็จะได้รับการเคารพกราบไหว้จากคนทุกระดับในสังคม แม้แต่กษัตริย์ก็ยังต้องให้ความเคารพกราบไหว้ (2) ได้รับความเคารพ ยกย่อง บูชา กราบไหว้ และบำรุงด้วยปัจจัย 4 กล่าวคือ แม้จะเคย เป็นชาวนาต้องทำงานเสียภาษีให้รัฐ แต่เมื่อออกบวชเป็นบรรพชิตแล้ว ก็ไม่ต้องเสียภาษีให้รัฐอีกต่อไป แต่จะได้รับการบำรุงด้วยปัจจัย 4 จากหมู่ชนรวมทั้งผู้ปกครองบ้านเมืองด้วย 2) สามัญญผลเบื้องกลาง เป็นอานิสงส์หรือผลดีที่ภิกษุได้รับจากการเจริญสมาธิภาวนา กล่าวคือ เมื่อภิกษุรักษาศีลได้ บริสุทธิ์บริบูรณ์และหมั่นเจริญสมาธิภาวนาก็จะบรรลุฌานไปตามลำดับ ๆ คือ ปฐมฌาน ทุติยฌาน ตติย ฌาน และจตุตถฌาน จะได้รับความสุขที่เลอเลิศกว่าสุขใดในทางโลกมากนัก 1 พระวินัยปิฎก มหาวรรค ภาค 2, มก. เล่ม 7 ข้อ 135 หน้า 262. บทที่ 7 พระสงฆ์ : ส า ว ก ข อ ง พ ร ะ ส ม ม า สั ม พุ ท ธ เจ้า DOU 199
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More