ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยคะ - พระอัธปฏิญาณแปล ภาค ๒ - หน้า 2
โดยที่สุดถึงสิริของตน ก็ตามไปไม่ได้ ต้องละสิ่งทั้งปวงไป
ประโยชน์อันไรด้วยการอยู่คองเรือนของเรา, เราจึงบวช ดังนั้นแล้ว
ทรงบอบรมสมบัติ ให้แก่พระอริยสงฆ์ ออกผนาชเป็น
พระภูมิ อยู่ในหวีวันประเทศ ได้ทรงปรับกันว่า "พวกเรา
ไม่อาเพื่อเป็นอยู่ จึ่งจะราชสมบัติออกบวชกั้ท่าไม่, เราสล่านั้น
เมื่ออยู่ในที่แห่งเดียวนั้น ก็จักเหมือนกับผู้ไม่บวชนั้นเอง, เพราะฉะนั้น
เราจักแยกกันอยู่: ท่านจงอยู่ ที่บวชลูกกัน, เราจงอยู่ที่บวชนี้;
แต่จักรวมกัน ในวันอุโบสถทุกเดือน." ครั้งนั้นพระอาบาสัง ๒ นั้น
เกิดมีความคำร้อนอย่างนี้ว่า "แม่เมื่อเป็นเช่นนี้ ความคุคลิดล้วด้วย
คณะเทียว จักมีแกเราทั้งหลาย, ท่านจงจุดไฟให้ไฟไฟในอุโบสถ
ของท่าน, เราจักจุดไฟให้ไฟในพระอุโบสถของเรา: ด้วยเครื่องสัญญาน
นั้น, เราก็จุดไฟไฟให้ไฟไฟในพระอุโบสถนี้; ด้วยเครื่องสัญญา
นั้น, เราทั้งหลาย ก็จักรู้วามีหรือมีชีวิตอยู่: พระอาวุโสทั้ง ๒ นั้น
กระทำอย่างนั้นแล้ว.
[เรียมนต์ติและพิณ]
ต่อมาในภายอื่น เวทุูนี้บวชบาส ทำกะละ บังเกิดเป็นเทพเจ้า
ผู้มีศักดิ์ใหญ่: แต่นั้น ครั้งนี้สิ่งเดือน อัลลัปปากบาส พอแลไม่เห็น
ไฟ ก็ทราบได้ว่า "หายของเรา ทำกะละเสียแล้ว." แม้วเวทุูนี้ไป-
ดาบตรวจดูพิพิธสิริของตนในขณะนั้นเกิด ใคร่ครรวิงอิทธิกรรม เห็น
กิริยาตนกระทำ จำเดิมแต่คำบวชแล้ว คิดว่า "บัดนี้ เราจงไป
เยี่ยมชมขายของเรา" ในขณะนั้น จิจจะอัดภาพนั้นเสียง เป็นเหมือน
คนหลงทาง ไปยังสำนักงานอัศลัปปาดาบนั้น ไว้แล้ว ได้ยิน