ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - พระฉัมปปัตถุภูมิแปล ภาค ๒ - หน้าที่ 49
จำเดิมแต่นั้น การเรียนมนต์หรือการเรียนศิลปะ จึงไม่มี.
ฝ่ายพระราชา ทรงถามพระธิดาเป็นนิตย์ว่า "เจ้ายังเรียนศิลปะ อยู่หรือ ? ลูก."
พระนางตรัสว่า "ข้าแต่พระราชบิดา กระหม่อมยัง เรียนอยู่ เฝ้ะ."
ต่อมา วันหนึ่ง พระเจ้าอยู่มณ ตรัสถามพระนางว่า "นางผู้ เป็นชื่อหน้าที่ ซึ่งสมพึงกระทำ มารดาบิดา พี่น้องชายและ พี่น้องหญิง ไม่สามารถจะทำได้เลย; หากเธอ จักให้ชีวิตแก่เรา เราจักให้หญิง ๕๐๐ นางเป็นบริวาร แล้วให้ดำแหน่งอัครมเหสีแก่เธอ."
พระนาง ตรัสว่า "ถ้าพระองค์ จักอภิวาสวิภาในพระดำรัส นี้, หน่อยฉันก็ต้องถวายชีวิตท่านแก่พระองค์."
พระเจ้าอยู่มณ ตรัสตอบว่า "พระน้องหญิง เราจักอา."
พระนาง ทรงรับพระดำรัสว่า "ตกลง เถอะ" ดังนี้แล้วก็เสด็จ ไปสำนักพระราชบิดา ถวายบังคมแล้ว ได้ยืนอยู่ข้างหนึ่ง ลำดับนั้น ท้าวเธอครั้นถามพระนางว่า "ศิลปะ สำเร็จแล้วหรือ ? ลูกหญิง."
ว่าสัตตตา. ข้าแต่พระบิดา ศิลปะ ยังไม่สำเร็จเถอะ เถอะ.
ลำดับนั้น พระเจ้าอยู่มณ ตรัสถามพระนางว่า "ทำไม เล่า ลูกหญิง ?"
วาสลากัตตา. ข้าแต่พระบิดา กระหม่อมฉันควรจะได้รับประดุ ประดุ ๑ กับพาหนะ ๑.
ฉันทัพโชค นี่ เป็นอย่างไรเล่า ลูกหญิง ?