ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - พระอิฐมปัตถูฏกฎแปล ภาค ๒ - หน้า ที่ 58
ถามว่า "พระจิศลาด ทรงทราบความเกิดขึ้นแห่งความอาดาในพระองค์ ของนางหรไม่ทรงทราบ?"
ตอบว่า "ทรงทราบเหมือนกัน."
ถามว่า "เมื่อพระองค์ทรงทราบ เหตุใดจึงตรัสพระคาถา?"
ตอบว่า "พระองค์ตรัสพระคาถา ด้วยสามารถแห่งพรหมนั่น และพรหมนี้ก็ ๒ นอกนี้."
ธรรมดา พระพุทธเจ้าทั้งหลาย ไม่ทรงจำถึงความอาดาอันตรทรงแสดงธรรม ด้วยสามารถแห่งบุคคล ผู้ควรบรรลุมรรคผลเท่า นั้น. มาราคับิดา พานางมาดินทียนั้น ไปฝากนายอังพูมคนันิยะ (อาวี)
ผู้เป็นน้องชายแล้วไปสำนักของพระศาสดา ทั้ง ๒ คนบวชแล้ว ก็ ได้บรรลุอรหัตผล.
ฝนายอุผมมาดิ้นะ คิดว่า "อดีของเราไม่คว้แก่ผู้ช้า, ควรแก่พระราชาผู้เดียว" จึงพานไปสู่เมืองโกสัมพี ตบแต่งด้วยเครื่อง ประดับทั้งงวงแล้ว ได้ถวายแก่พระเจ้าอุเทน ด้วยคำว่า "นางแก้วนี้ ควรแก่สมมติเทพ (ฝ่าสะออกธีระบکھ.) พระเจ้าเทวนั้น พอทอดพระเนตรเห็นนาง ก็เกิดสินหาอย่างแรงกล้า จึ่งประทานการ อภิเตย ท่ามูฎาคม ๕๐๐ ให้เป็นบริวารของนาง ตั้งไว้ในตำแหน่ง แห่งอรหันต์แล้ว
นี้เป็นเรื่องของนางมาดินทิยา. พระเจ้าอุเทนนัน ได้มีอรรคมหัสสูติ ๓ นาง ซึ่งมีหญิงฟ้องพัน ห้าร้อยคนเป็นบริวาร ด้วยประการดังนี้.