ข้อความต้นฉบับในหน้า
ปะโยค๒ - พระอิทรม์ทัศถูกอาแปลภาค ๒ - หน้าที่ 157
แน่นที่เขาจัดไว้เรียบร้อยแล้วเพื่อท้าวสักกะ ในท่ามกลางมนตทป, ท้าวสักกะอ้อมประทับนั่งเหนือยอดัลบัลลังก์นั้น เทพพลด ๑๓ องค์นั่งบน รัตนัลลังก์ ในกระพองของตน บรรจงกระพอง ๑๓ กระพอง ใน กระพองหนึ่ง ๆ ช้างเทพพูกหนั่น นิมิตจากกระพอง ๗ งา ในงา เหล่านั้น ง่างหนึ่ง ๆ ยาวประมาณ ๕๐ โยชน์ ในงหนึ่ง ๆ มีสาร โบกฐ์ (จาละ) ๓ สะระ ในสารโบกฐ์นี้แต่ละสะระ มีคอวุ สระสะระ ๓ กอ ในถอกหนึ่ง ๆ มีดอกบัวก อะ ๗ ดอก ในดอกหนึ่ง ๆ มีกลีบดอกละ ๓ กลีบ ในดอกหนึ่ง ๆ (มี) เทพพิรสดฟองค์อยู่ องค์; มหรสพฟ้อน ย่อมมีนางช้าง ในที่ ๕๐ โยชน์โดยรอบ อย่างนี้แหละ ท้าวสักกเทวราช เสวยอุใหญ่ดีเด่นเที่ยวไป ด้วยประการฉะนี้.
[อธิบายของมนเทม พ ๓ คนก็ดีในพวกวดีอย่างสุข] แม้นางสุธรรม ถึงแก่กรรมแล้ว ก็ไปรับเกิดในทพดาคดีสัน นั้นเหมือนกัน เทวสภาอธิอสุธรรม มีประมาณ ๕๐๐ โยชน์ ได้เกิดแล้วแก่นาง. ได้ยินชื่อว่าศานที่อื่น อันหน้าปลื้มใจว่านั้น ย่อมไม่มี ในวันอุทธิมิ (คดีที่ ๔) แห่งเดือน มีการฟังธรรม ในที่นั้นนั่นเอง จนกระทั่งทุกวันนี้ จนทั้งหลาย เห็นสถานที่อิ่ม ในแห่งใดแห่งหนึ่งเข้า ก็ยกกล่าวกันอยู่ว่า "เหมือนเทวสภาชื่อสุธรรมา."
แม้นบางสุนทา ถึงแก่กรรมแล้ว ก็ไปรับเกิดในพวกอัครสุธร์นันั้นเหมือนกัน สะระโบกถเดี๋ยวสุนันทา มีประมาณ ๕๐๐ โยชน์ เกิดแล้วแก่นาง.
๑. กาล ก็วาม ทำกาลแล้ว.