ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประชา
เวสสันดรชาดก ตอน ที่ ๕ (สั ต ต ส ต ก ม ห า ท า น )
กับพระองค์เท่านั้นเป็นสิ่งประเสริฐกว่าการพลัดพรากจากพระองค์
แม้นางช้างพังยังติดตามช้างพลายในป่า อาศัยตามภูผาทาง
กันดาร ฉันใด หม่อมฉันจะพาบุตรและบุตรีตามเสด็จ ฉันนั้น
หม่อมฉันจักเป็นผู้ที่เลี้ยง จักไม่ทำความลำบากพระทัยให้เกิด
ขึ้นกับพระองค์เลย”
เราจะเห็นได้ว่า ยอดศรีภรรยาผู้เป็นนักสร้างบารมีใน
สมัยก่อน แม้มีอุปสรรคก็ไม่ทอดทิ้งกัน ส่วนพระนางผุสดีเมื่อได้
สดับข่าวร้าย ก็รีบเสด็จมาหาพระเวสสันดร ทรงได้สดับการ
สนทนาของกษัตริย์ทั้งสอง ก็พลอยทรงกันแสงด้วยความสงสาร
ทรงพาพระโอรสเสด็จไปเฝ้าพระเจ้าสัญชัย พลางกราบทูล
อ้อนวอนว่า “ชาวสีพีให้ขับไล่พระราชโอรสผู้ไม่มีความผิด รัฐ
มณฑลของพระองค์ก็จะเป็นเหมือนรังผึ้งร้าง เหมือนผลมะม่วง
หล่นลงบนดิน เหมือนหงส์มีขนปีกหลุดร่วง ย่อมอยู่อย่าง
นํามากในเปือกตมที่ไม่มีนํ้า ข้าแต่มหาราชเจ้า ประโยชน์อย่าได้
ล่วงเลยพระองค์ไปเลย ขอพระองค์อย่าได้ขับไล่พระโอรสผู้ไม่มี
ความผิด ตามคำของชาวสีพีเลย”
แม้จะมีใครมาช่วยพูดอ้อนวอนอย่างไร ก็ไม่อาจเปลี่ยน
พระทัยของพระราชาได้ เป็นอันว่า พระเวสสันดรต้องถูก
เนรเทศให้ออกเดินทางไปสู่เขาวงกตพร้อมด้วยพระนางมัทรี