ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะ ประช
เดินตามทางของบัณฑิต (๑๐)
២៩៦
หิริจึงเป็นบุคคลที่ควรยกย่อง เทพนารีชื่อหิริเป็นผู้มีปกติห้าม
คนจากบาปอกุศล เหมือนท่านบเป็นที่กั้นกระแสน้ำเชี่ยวไว้ได้
ดูก่อนเทพสารถี เพราะฉะนั้น ท่านจงทูลพระอินทร์ตามคำที่เรา
กล่าวแล้วนั้นว่า เทพนารีชื่อหิริเป็นผู้ควรได้รับการบูชาในโลก
ทั้งสอง
มาตลีเทพสารถีได้ฟังถ้อยคำของท่านดาบส ก็ชื่นชม
โสมนัส ได้กล่าวสาราณียธรรมต่อกันและกัน และในระหว่างที่
กำลังสนทนาธรรมกัน นิมิตความตายได้บังเกิดขึ้น มาตลีรู้ว่า
ท่านดาบสกำลังจะสิ้นอายุขัยแล้ว จึงกล่าวว่า “ข้าแต่โกสิยะ
ท่านปลงอายุสังขารได้แล้ว ธรรมคือการเคลื่อนจากมนุษยโลกก็
ถึงพร้อมแก่ท่านแล้ว มาเถิดเราจะไปเทวโลกด้วยกัน เชิญท่าน
มาเถิด จงขึ้นราชรถคันงามของข้าพเจ้า เพื่อไปสู่สุคติโลก
สวรรค์ในกาลบัดนี้เถิด ข้าแต่ท่านผู้มีโคตรเสมอด้วยพระอินทร์
ทั้งพระอินทร์ก็ทรงหวังการมาของท่าน ท่านจงถึงความเป็น
สหายกับพระอินทร์ในวันนี้เถิด”
ท่านโกสิยดาบสนั่งสมาธิครู่หนึ่ง ก็จุติจากอัตภาพของ
มนุษย์ บังเกิดเป็นโอปปาติกเทพบุตรผู้มีรัศมีกายสว่างไสว ขึ้น
ไปยืนอยู่บนทิพยรถ จากนั้นมาตลีได้นำท่านไปสู่สำนักของ
ท้าวสักกะ ท้าวสักกะเห็นเทพบุตรใหม่ ก็มีพระทัยยินดี ได้ประทาน
นางหิริเทวีซึ่งเป็นธิดาของพระองค์ให้เป็นอัครมเหสีของท่าน