ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประช
มโหสถบัณฑิต ตอนที่ ๓ (ฉายแวว ปราชญ์)
กระตือรือร้นในเรื่องนี้
๓๕๓
เป็นเพราะต้องการจะทำให้ถูกพระทัย
ของพระราชา แต่ครั้นเห็นทรงใฝ่พระทัยมากเป็นพิเศษ จึงเกิด
ความอิจฉา ไม่ต้องการเห็นผู้ที่มีปัญญาหลักแหลมเป็นคนดีมี
ฝีมือกว่าตน เข้ามาร่วมงานด้วย แม้จะเป็นประโยชน์แก่บ้านเมือง
ทําให้บ้านเมืองมีความเจริญก็ตาม เพราะมีลางว่าอาจมาตัดรอน
ลาภสักการะของตน และถูกลดการยอมรับนับถือ จึงหาทางขัด
ขวางสุดกำลัง นี่เป็นเรื่องปกติของปุถุชนผู้ยังมีกิเลสอยู่ ซึ่งมีมา
กันทุกยุคทุกสมัย กระทั่งยุคปัจจุบันนี้
อาจารย์เสนกะจึงได้กราบทูลว่า “ข้าแต่พระองค์ผู้
สมมติเทพ เหตุเพียงเรื่องการสร้างศาลานั้นยังเล็กน้อยเกินไป
ไม่สมกับที่จะเป็นเหตุให้บุคคลได้ชื่อว่า เป็นบัณฑิต เพราะใครๆ
ก็สร้างได้ เป็นเรื่องที่ไม่น่าอัศจรรย์เลย การเป็นราชบัณฑิตได้
ด้วยเหตุเพียงสร้างศาลา ดูจะไม่หนักแน่นนัก หากข่าวนี้แพร่
หลายไปทั่วชมพูทวีป จะเป็นที่ดูแคลนของบุคคลทั้งหลาย ขอได้
โปรดทรงพิจารณา และสังเกตติดตามต่อไปเถิดพระเจ้าข้า”
ครั้นสดับฟังถ้อยคําของท่านเสนกะแล้ว ทรงไม่กล้า
ผลีผลามที่จะให้นำตัวกุมารน้อยเข้ามาอยู่ในพระราชวัง จึง
รับสั่งให้ทูตไปบอกอำมาตย์ว่า ให้สังเกตดูไปก่อน เมื่อมีเหตุ
การณ์อันใดที่พิเศษเกิดขึ้น ให้รีบรายงานมาเป็นระยะๆ
ระหว่างที่นํามาตย์ของพระเจ้าวิเทหราชประจําอยู่ ณ สํานัก