ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประชา
เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๑ ๔ (พระเวสสันดร ขอ พร ๘ ประการ)
១៩៤
เป็นจริงทุกประการ เหมือนอย่างพระเวสสันดรโพธิสัตว์ ผู้รักใน
การบริจาคทานยิ่งกว่าสิ่งใดๆ การให้นั้นฝังแน่นอยู่ในจิตใจ
เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตของพระองค์ จึงยากที่ใครจะมาบอกให้
เลิกทำทาน ขนาดถูกขับไล่ พระองค์ก็ไม่เคยน้อยเนื้อต่ำใจ
บริจาคได้กระทั่งพระโอรสพระธิดา และมเหสีผู้เป็นที่รักยิ่ง
เพราะฉะนั้น เมื่อทรงกล้าสละในสิ่งที่ชาวโลกสละได้ยาก
ถึงคราวอธิษฐานจิตปรารถนาสิ่งใด ท่านก็จะได้สิ่งนั้นสมความ
ปรารถนาอย่างเป็นอัศจรรย์ เพราะกำลังบุญบารมีที่มีมาก และ
มากพอที่จะได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งเหลืออีกเพียง
ภพชาติเดียวเท่านั้น คือ หลังจากที่ได้ไปอุบัติเป็นจอมเทพ และ
เสวยสุขในสวรรค์ชั้นดุสิต ก็จะเสด็จอุบัติบนโลกมนุษย์อีกครั้ง
เมื่อทรงออกผนวชแสวงหาโมกขธรรม จะได้บรรลุอนุตตร
สัมมาสัมโพธิญาณ ไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิดอีกต่อไป
ครั้งที่แล้ว ถึงตอนที่พระอินทร์ได้มาเสริมบารมีของ
พระเวสสันดร ด้วยการแปลงเป็นพราหมณ์แก่ มาทูลขอพระนาง
มัทรีราชเทวี พระองค์ทรงยอมที่จะสละมเหสีผู้เคยร่วมทุกข์
ร่วมสุขมาด้วยกัน อีกทั้งพระนางมัทรีก็ไม่ลังเลพระทัย ทรง
ทำความปรารถนาของพระสวามีให้เต็มเปี่ยม แต่พระอินทร์ก็ได้
มอบพระนางมัทรีฝากไว้กับพระเวสสันดร นั่นแสดงว่า พระเวส
สันดรไม่อาจให้พระนางมัทรีแก่ใครได้อีกต่อไป จากนั้นทรง