ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะ ประชา
มโหสถบัณฑิต ตอนที่ ๕ (พิสูจน์ ชายชู้)
๓๗
จากนั้นก็ให้พาคนทั้งสามไปรออยู่ ณ ที่แห่งหนึ่งห่างจากที่วินิจฉัย
และให้อยู่แยกกันคนละแห่ง โดยเรียกนายทีมปิฏฐิเข้ามาก่อน
เมื่อมาถึงก็ทําการไต่สวน
เมื่อทีฆปิฏฐิถูกถามชื่อภรรยา ตัวเองยังไม่เคยถามชื่อ
ของนาง จึงตอบส่งเดชไป เมื่อถามถึงชื่อของพ่อแม่ฝ่ายหญิงก็
อึ้งอยู่ครู่หนึ่ง แล้วตอบโกหกไป มโหสถให้บริวารคนหนึ่งจด
ถ้อยคำของทีฆปิฏฐิไว้เป็นหลักฐาน แล้วให้เขาออกไปรอข้างนอก
จากนั้นให้เรียกโคฬกาฬเข้ามาถามทํานองเดียวกัน โคฬกาฬ
ตอบได้โดยไม่อ้าอึ้ง มโหสถรู้ได้ทันทีว่าเป็นสามีตัวจริง แต่ให้คน
จดชื่อไว้ แล้วให้ออกไปรออยู่ที่เดิม
จากนั้นได้เรียกให้นางทีฆตาลาเข้ามาถามถึงชื่อของ
สามีและบิดามารดาของนาง นางตอบโกหกมโหสถตามที่นึกชื่อได้
หลังจากการไต่สวน มโหสถจึงลงความเห็นว่า “ไม่น่าจะเป็นไปได้
วิสัยหญิงชายที่เป็นสามีภรรยากันต้องรู้จักวงศ์สกุลของแต่ละฝ่าย
แสดงว่านางทีฆตาลาคิดจะนอกใจสามีจึงโกหก ส่วนนายทีฆ
ปิฏฐินั้นไม่รู้จริงจึงโกหก ฉะนั้นนายโคฬิกาฬก็คือ สามีของนาง
ทีฆตาลาอย่างแน่นอน”
ทีฆปิฎฐิหมดทางที่จะโต้แย้ง ยอมสารภาพว่าตัวเองเป็น
ตัวปลอม โคฬกาฬจึงได้ภรรยาของตนคืนมา ด้วยการวินิจฉัย
อันเที่ยงธรรมของมโหสถกุมาร โคฬกาฬดีใจกล่าวชมมโหสถว่า