ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรระพี ประช
เดินตามทางของบัณฑิต (๑๐)
๒๕๓
โกสิยเทพบุตรเป็นผู้มีอิสริยยศมากมาย ท่านได้เป็นสหายของ
พระอินทร์ ผู้เป็นจอมเทพในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
ครั้นพระบรมศาสดาทรงนําพระธรรมเทศนานี้มาตรัสเล่า
จึงตรัสว่า “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ใช่แต่ในบัดนี้เท่านั้นก็หาไม่
ถึงเมื่อก่อน ตถาคตก็ได้สอนให้ภิกษุรูปนี้ที่เคยตระหนี่ ให้ยินดีใน
การให้ทาน” ทรงประมวลชาดกว่า “เทพธิดาชื่อว่าหิริในกาลนั้น
ได้เป็นอุบลวรรณาเถรี โกสิยดาบสได้เป็นภิกษุผู้รักในการให้ทาน
ปัญจสิบเทพบุตรเป็นพระอนุรุทธะมาตลีเทพสารถีเป็นพระอานนท์
สุริยเทพบุตรเป็นพระมหากัสสปเถระ จันทเทพบุตรเป็นพระ
มหาโมคคัลลานะผู้มีฤทธิ์มาก นารทดาบสได้เป็นพระสารีบุตร
ส่วนท้าวสักกเทวราชได้เป็นเราตถาคตเอง”
จะเห็นได้ว่า ชีวิตของบุคคลกว่าจะเดินทางถึงจุดหมาย
ปลายทาง คือ อายตนนิพพานนั้น มีเรื่องราวมากมายที่ต้อง
ประสบพบเจอ ถ้าภพชาติไหนได้เจอบัณฑิตนักปราชญ์ มีจิต
เป็นกุศลก็ได้สั่งสมบุญ แต่ถ้าประมาทหลงไปทำบาปอกุศล ก็
ต้องพลัดไปเกิดในอบายภูมิ การกระทำทุกอย่าง ไม่ว่าดีหรือชั่ว
ล้วนมีผลทั้งสิ้น เพียงแต่จะเร็วหรือช้าเท่านั้น ผู้มีปัญญาจะเร่ง
ทำแต่ความดีเพื่ออนาคตที่ดีและสิ่งที่พึงปรารถนา โอกาสใน
การทำความดีในโลกนี้ไม่ใช่ของหาง่าย เราจึงต้องฉลาดใช้ทุก
สถานการณ์ในการสร้างบารมีให้ได้ ให้รู้จักเปลี่ยนวิกฤติมาเป็น