ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประช
มโหสถบัณฑิต ตอนที่ ๑ ๓ (ปัญญา ประเสริฐกว่าทรัพย์)
๔๓๕
ครั้นพระบรมโพธิสัตว์แสดงภูมิปัญญา เหมือนผู้วิเศษ
คุ้ยทรายทองขึ้นจากเชิงเขาสิเนรุ เหมือนผู้มีฤทธิ์ยังดวงจันทร์
เต็มดวงให้ปรากฏขึ้นในท้องนภา จนเสนกะบัณฑิตหมดคำโต้แย้ง
และไม่อาจกล่าวแย้งได้อีก ได้แต่นั่งคอตก จากนั้นมโหสถ
บัณฑิตได้กล่าวขึ้นอีกว่า “ปัญญาเป็นที่สรรเสริญของสัตบุรุษ
ทั้งหลาย สัตบุรุษทั้งหลายสรรเสริญปัญญาว่า ประเสริฐอย่าง
แท้จริง สิริเป็นที่ใคร่ของพวกคนเขลา คนเขลาใคร่สิริ ยินดีใน
โภคสมบัติ ก็ความรู้ของท่านผู้รู้ทั้งหลาย ใครๆ ไม่สามารถ
เปรียบด้วยอุปมาใดๆ ได้ คนมีสิริย่อมไม่ล่วงเลยคนมีปัญญาใน
กาลไหนๆ ผู้รู้ผู้มีปัญญาเท่านั้นเป็นคนประเสริฐ”
พระเจ้าวิเทหราชได้สดับการบันลือสีหนาทของมโหสถ
เช่นนั้น ทรงชื่นชมโสมนัส ทรงบูชามโหสถด้วยทรัพย์สมบัติ
และเครื่องสักการะมากมาย เหล่าข้าราชบริพารต่างแซ่ซ้อง
สาธุการต่อชัยชนะของมโหสถในครั้งนั้น
เราจะเห็นว่า นักปราชญ์บัณฑิตในสมัยก่อน ท่าน
สรรเสริญปัญญาว่าประเสริฐกว่าทรัพย์ โบราณจึงกล่าวว่า มี
ปัญญาเหมือนมีทรัพย์อยู่นับแสน เพราะฉะนั้น เมื่อเราได้ยินได้
ฟังกันเช่นนี้แล้ว อย่าลืมที่จะแสวงหาดวงปัญญา แสวงหา
ความรู้ใส่ตัวให้มาก คนเราจะล่วงทุกข์ได้ ต้องอาศัยปัญญา
และความเพียร ฉะนั้น ให้หมั่นนั่งธรรมะทุกๆ วัน