ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประชา
เดินตามทางของบัณฑิต (๓)
๒๔๐
เห็นพราหมณ์เข้ามาถามเช่นนั้น
ก็ตอบด้วยความไม่พอใจว่า
“ท่านเป็นคนบ้า จึงไม่รู้จักแม้กระทั่งทางไปเมืองพาราณสี จะ
มาทําอะไรทางนี้เล่า จงไปทางโน้น” ท้าวสักกะทรงทําเป็นไม่
ได้ยิน ตรัสถามต่อไปว่า “ท่านพูดว่าอะไรนะ” พลางเดิน
กระเถิบเข้าไปใกล้ๆ เศรษฐีอีก
เศรษฐีรีบร้องตะโกนพร้อมกับชี้บอกหนทางไปเมือง
พาราณสีว่า “แน่ะพราหมณ์ ท่านหูหนวกหรือยังไง ท่านจะเดิน
มาทางนี้ทำไม จงไปทางโน้นซิ” ท้าวสักกะทำเป็นไม่ใส่ใจถ้อยคำ
ที่เศรษฐีพูด ได้สํารวจตรวจตราดูข้าวปายาสที่เศรษฐีกำลังหุงอยู่
และทักขึ้นว่า “ท่านผู้เจริญ ท่านจะร้องเอะอะโวยวายไปทำไม
ควันและไฟยังปรากฏอยู่ ท่านคงหุงข้าวปายาสสุกแล้ว ชะรอยว่า
ท่านคงจะนิมนต์พราหมณ์ทั้งหลายมาบริโภคที่นี่ ในเวลาที่พวก
พราหมณ์บริโภคแล้วแม้ข้าพเจ้าก็จักพลอยได้บริโภคสักหน่อยหนึ่ง
ข้าพเจ้าเองก็เป็นพราหมณ์เหมือนกัน ท่านจะไม่นิมนต์ข้าพเจ้า
บริโภคบ้างหรือ"
นี่เป็นกุศโลบายของท้าวสักกะผู้จะมาปราบมิจฉาทิฏฐิ
ของท่านเศรษฐี เมื่อเราฟังเรื่องนี้แล้วอย่าฟังผ่าน ให้นำคุณ
ธรรมของบัณฑิต ๔ ประการ นี้ไปฝึกให้มีให้เป็นขึ้นมาในตน ถ้า
ทำได้อย่างนี้ก็ไม่ต้องกลัวต่อปรโลก เพราะเราจะมีสุคติโลก
สวรรค์เป็นที่ไปกันทุกคน