ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประชา
เดินตามทางของบัณฑิต(๒)
๒๓๐
ความโลภว่า “พ่อแม่ปู่ย่าของเรา เป็นคนไม่ฉลาดเลย มัวแต่ขน
ทรัพย์สมบัติที่แสวงหามาด้วยความยากลำบากเอาออกบริจาค
ให้ทาน ทรัพย์ของใครก็ของมัน ไม่เห็นจำเป็นจะต้องไปแบ่งให้
คนอื่นใช้เลย เราจะเป็นเจ้าของทรัพย์สมบัติ ซึ่งเป็นมรดก
ตกทอดทั้งหมดนี้เพียงผู้เดียว จะไม่ยอมแบ่งปันให้ใคร เราจะ
รักษาทรัพย์เหล่านี้ไว้จนกว่าชีวิตจะหาไม่
วันรุ่งขึ้นจึงสั่งให้รื้อและเผาโรงทานทั้ง 5 แห่ง เมื่อมี
พวกยาจกมาประชุมอ้อนวอนอยู่หน้าบ้าน เศรษฐีก็ให้คนใช้ขับ
ไล่ไป เมื่อมหาชนได้ยินข่าวการทําลายโรงทานต่างพากันติเตียน
เศรษฐีว่า เป็นผู้เกิดมาเพื่อทำลายล้างชื่อเสียงวงศ์ตระกูลของ
บรรพบุรุษ แม้เศรษฐีได้ยินมหาชนตำหนิหรือมีผู้มาแนะนำก็ไม่
สนใจ ตั้งแต่นั้นมา เศรษฐีก็รวบรวมทรัพย์ ไม่ยอมใช้ทรัพย์
สมบัติให้เหมาะสมกับฐานะของตนเอง แม้แต่ลูกและภรรยาก็ไม่
ยอมให้ใช้ ได้แต่บริโภคข้าวหักๆ ป่นๆ มีน้ำผักดองเป็นกับข้าว
นุ่งผ้าเนื้อหยาบ กั้นร่มใบตาล ใช้รถเก่าคร่ำคร่าเทียมด้วยโคแก่
เป็นยานพาหนะ
วันหนึ่ง มัจฉริยโกสิยเศรษฐี ได้ไปชวนอนุเศรษฐีพร้อม
กับบุตรธิดา ซึ่งกำาลังบริโภคข้าวปายาส ที่ปรุงด้วยของที่เจือ
ด้วยเนยใสใหม่ น้ำผึ้งสุกและน้ำตาลกรวด ไปเข้าเฝ้าพระราชา
เมื่ออนุเศรษฐีเห็นมัจฉริยโกสิยเศรษฐี จึงลุกจากอาสนะ พลาง