ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรร ประช
มโหสถบัณฑิต ตอนที่ ๔ (ยักษ์จำแลง)
๓๖๐
เรื่องอะไร” หญิงทั้งสองต่างกล่าวหากันว่า อีกฝ่ายลักขโมยลูก
ของตัว ต่างยืนยันว่าเป็นแม่ของเด็ก มโหสถฟังความแล้ว
พิจารณาเห็นหญิงคนหนึ่งมีลักษณะผิดปกติกว่ามนุษย์ธรรมดา
คือ มีนัยน์ตาไม่กะพริบและมีสีแดง เมื่อยืนกลางแดดก็ไม่มีเงา
จึงรู้ว่านี่คือนางยักษ์จ่าแลงกายมา แต่เพื่อความกระจ่างของคน
ทั่วไป จึงถามหญิงทั้งสองว่า “ถ้าฉันจะตัดสินให้ จะยอมรับคำ
วินิจฉัยไหม”
หญิงทั้งคู่ต่างรับว่ายอม และจะตั้งอยู่ในคำวินิจฉัยของ
มโหสถทุกประการ มโหสถให้คนขีดเส้นที่พื้น ให้เด็กทารกนอน
อยู่ระหว่างเส้น แล้วให้นางยักษ์จับข้อมือเด็ก ให้มารดาจับที่ข้อ
เท้า บอกว่า “ถ้าใครดึงเด็กให้พ้นไปจากเส้นที่ขีดไว้ได้ เด็กก็
เป็นลูกของผู้นั้น” หญิงคนหนึ่งดึงด้วยแรงปรารถนาอยากจะกิน
เป็นอาหาร ฝ่ายหนึ่งดึงด้วยแรงรักในบุตร เมื่อเด็กถูกชักเย่อ
อย่างนั้นก็ร้องไห้เสียงดังด้วยความเจ็บปวด เสียงร้องของลูก
รักเป็นเสียงที่มีอิทธิพลต่อผู้เป็นมารดา และบีบคั้นหัวใจของ
มารดาแทบจะแตกสลาย หญิงผู้เป็นแม่กลัวลูกของตนจะเจ็บ
จึงยอมปล่อยให้นางยักษ์จึงไปฝ่ายเดียว ส่วนนางนั่งร้องไห้
อย่างน่าเวทนา
มโหสถถามมหาชนที่มาประชุมว่า “ธรรมดาจิตใจของ
หญิงผู้เป็นมารดา กับของหญิงที่ไม่เป็นมารดา ฝ่ายไหนจะมี