ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประชา
มโหสถบัณฑิต ตอนที่ ๑ ๘ (ผดุงคุณธรรม)
៤៧៨
ในอานาจ แล้วทําการแย่งชิงราชสมบัติ เมื่อได้ปฏิบัติการตามวิธี
ทั้งสองนี้ ก็สามารถยกตนจากฐานะตาต้อย ขึ้นสู่ความพรั่งพร้อม
ด้วยลาภยศสรรเสริญ มีบริวารมากมาย ภายหลังค่อยหันมา
ประพฤติความดีงามก็ยังไม่สายเกินไป”
มโหสถได้ฟังขัตติยมายาอย่างนั้นแล้ว ได้ทูลตอบพร้อม
กับเป็นการถวายอนุศาสน์แด่พระราชาไปในตัวว่า “บุคคลนั่ง
หรือนอนที่ร่มเงาของต้นไม้ใด ไม่พึง กรานกิ่งของต้นไม้นั้น
เพราะผู้ประทุษร้ายมิตรเป็นผู้ชั่วช้า ข้าแต่มหาราชเจ้า ถ้า
บุคคลหักกิ่งต้นไม้ที่ตนได้บริโภค ชื่อว่าเป็นผู้ประทุษร้ายมิตรไซร้
ผู้ที่ประทุษร้ายต่อผู้มีพระคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อม จะเป็นคน
เช่นไรเล่า”
พระเจ้าวิเทหราชได้ฟังเช่นนั้น ทรงหมดความคลาง
แคลงใจในมโหสถ และตรัสถามชีวิตของมโหสถในยามตกยากว่า
“พ่อมโหสถ เจ้าเคยอุดมสมบูรณ์ด้วยลาภยศมากมาย ที่เจ้าไป
ยอมบริโภคข้าวเหนียวของนายช่างหม้อนั้น ดูจะไม่น่ายินดีเอา
เสียเลย ทําไมเจ้าจึงยอมทนอยู่ได้ล่ะ”
มโหสถกราบทูลว่า “วัตถุที่จะเป็นสิ่งดำรงชีพของมนุษย์
นั้น ความสําคัญอยู่ที่ประโยชน์ มิได้อยู่ที่ความทรามหรือความ
ประณีต ถึงหากจะทรามแต่อำนวยประโยชน์ก็เป็นสิ่งที่พึงประสงค์
โภชนะแม้ประณีตแต่ไม่มีประโยชน์อันใด ยังจะทรามกว่าโภชนะ