ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประชา
มโหสถบัณฑิต ตอนที่ 5 (ผู้ผดุงความยุติธรรม)
๓๗๘
คดีเรื่องโค ใครๆ ก็วินิจฉัยได้ บุคคลไม่ชื่อว่าเป็นบัณฑิตด้วย
เหตุเพียงเท่านี้ ขอให้ทรงรอไปก่อน” พระราชาจึงทรงได้แต่นิ่ง
ความเป็นผู้มีปัญญาของมโหสถยังไม่หยุดเพียงเท่านี้
นับวันก็ยิ่งโดดเด่นขึ้น ดังเช่นวันหนึ่ง มีหญิงเข็ญใจคนหนึ่ง
เปลื้องเครื่องประดับไว้บนผ้าสาฎก แล้วเดินลงไปล้างหน้าใน
สระน้ำ หญิงรุ่นสาวคนหนึ่งเห็นเครื่องประดับนั้น เกิดความโลภ
จึงหยิบเครื่องประดับขึ้นชมแล้วลองสวมใส่ดู และรีบเดินจากไป
ฝ่ายหญิงเจ้าของเห็นดังนั้น ก็รีบขึ้นจากสระน้ำวิ่งตามไป ร้อง
บอกให้เอาเครื่องประดับของตนคืนมา แต่หญิงรุ่นสาวตู่ว่า เป็น
เครื่องประดับของตน จึงเกิดการทะเลาะกันขึ้น
ฝ่ายมโหสถบัณฑิตกำลังเล่นอยู่กับเพื่อนเด็กๆ ได้ยิน
เสียงหญิงสองคนทะเลาะกัน จึงให้เรียกเข้ามาสอบถามต้นสาย
ปลายเหตุ เพียงแค่สังเกตกิริยาอาการและคำพูด ก็รู้ได้ทันทีว่า
คนไหนเป็นเจ้าของเครื่องประดับ แต่ก็ถามหญิงที่เป็นผู้ขโมยว่า
“ท่านย้อมเครื่องประดับนี้ด้วยของหอมอะไร” หญิงวัยรุ่นที่เป็น
หัวขโมยตอบว่า “ข้าพเจ้าย้อมด้วยของหอมทุกอย่าง”
จากนั้น มโหสถบัณฑิตจึงถามหญิงเจ้าของ นางตอบว่า
“ข้าพเจ้าเป็นคนเข็ญใจ จึงย้อมด้วยดอกประยงค์เท่านั้น”
มโหสถบัณฑิตให้บริวารจดจำคำให้การของหญิงทั้งสอง และให้
นำภาชนะใส่น้ำมาแช่เครื่องประดับ จากนั้นให้เรียกคนที่