ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประช
มโหสถบัณฑิต ตอนที่ ๔ (ยักษ์จำแลง)
๓๕๙
ทรัพย์แต่ไร้ปัญญา โดยเฉพาะปัญญาที่สามารถสั่งสอนตนให้
หลุดพ้นจากการทําบาปอกุศลทั้งปวง แม้บุคคลนั้นจะเกิดใน
สถานะใด ก็ได้ชื่อว่าเป็นบัณฑิต คนมีปัญญา นอกจากจะสอน
ตัวเองได้แล้ว ยังสอนผู้อื่น แนะนำหนทางบุญ หนทางสวรรค์
นิพพานให้คนอื่นได้อีกด้วย เหมือนเรื่องของมโหสถบัณฑิตที่
หลวงพ่อได้น่ามาเล่าให้พวกเราทุกคนได้รับฟังกัน
*วันหนึ่ง สตรีผู้หนึ่งอุ้มลูกไปที่สระโบกขรณีของมโหสถ
เพื่อล้างหน้า นางได้วางทารกน้อยไว้ที่ริมฝั่ง ส่วนตัวเองเดินลง
ไปอาบน้ำล้างหน้า ทันใดนั้น มียักษิณีตนหนึ่งเห็นเด็กนอนอยู่
จึงอยากจะจับกินเป็นอาหาร นางได้แปลงเป็นหญิงเดินเข้าไป
อุ้มทารกขึ้นหยอกเย้าเล่นพอให้เด็กคุ้นเคย เด็กทารกจะได้ไม่
ร้องไห้ แล้วรีบอุ้มพาหนีไป มารดาของเด็กเห็นนางยักษ์จำแลง
พาลูกตนหนีไป จึงรีบวิ่งขึ้นจากสระน้ำ ไล่กวดตามไปจนทัน
และขอร้องให้ส่งลูกของตนคืนมา แต่นางยักษ์แย้งว่า เด็กทารก
เป็นลูกของตน ไม่ใช่ลูกของนาง
มโหสถกุมารได้ยินเสียงหญิงทั้งสองทะเลาะกันก็ไต่ถามว่า
“ท่านทั้งสองเป็นผู้หลักผู้ใหญ่แล้ว มาทะเลาะเบาะแว้งกันด้วย
*มก. มโหสถบัณฑิต เล่ม ๒๓ หน้า ๓๓๑