ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประช
มโหสถบัณฑิต ตอนที่ ๑๑
ที่ ๑ ๑ ( ส น อ ง ราชกิจ)
๔๒๐
จะนําแก้วมณีขึ้นมาได้หรือไม่ มโหสถกราบทูลว่า “ขอเดชะ
ฝ่าละอองธุลีพระบาท เรื่องนี้หาเป็นการหนักหนาอะไรไม่ ข้า
พระองค์จักนำแก้วมณีมาถวายตามราชประสงค์เองพระเจ้าข้า”
พระเจ้าวิเทหราชได้ทรงสดับดังนั้น ทรงเบาพระทัยคิดว่า วันนี้
เราจักเห็นกำลังปัญญาของมโหสถบัณฑิต
โบกขรณีพร้อมด้วยข้าราชบริพาร
จึงเสด็จไปสู่สระ
มโหสถบัณฑิตยืนอยู่ที่ฝั่ง มองดูแสงของแก้วมณีก็รู้ว่า
แก้วมณีนี้ไม่ได้อยู่ในสระโบกขรณี เพราะเห็นเพียงประกาย
วูบวาบเท่านั้น ครั้นตรวจตราดูรอบๆ เห็นต้นตาลตั้งอยู่โดดเดี่ยว
ใกล้ๆ สระ จึงมีความมั่นใจว่าดวงแก้วมณีนี้จะต้องอยู่บนต้นตาล
จึงกราบทูลว่า “แก้วมณีไม่มีในสระโบกขรณี พระเจ้าข้า”
พระราชาทรงสดับเช่นนั้น ยังไม่ทรงเชื่อนัก เพราะ
ความเห็นของมโหสถกับของท่านอาจารย์เสนกะดูต่างกันเหลือเกิน
มโหสถจึงให้นำภาชนะสำหรับขังน้ำมาใส่น้ำจนเต็ม แล้วกราบทูล
ว่า “ข้าแต่สมมติเทพ ขอพระองค์ทอดพระเนตรดูเถิด แสงของ
แก้วมณีไม่ได้ปรากฏเฉพาะในสระโบกขรณีเพียงแห่งเดียว
แม้ในภาชนะนี้ก็ปรากฏเช่นกัน แสดงว่าแก้วมณีไม่ได้อยู่ในสระ
โบกขรณี แต่อยู่ในรังกาบนต้นตาล โปรดให้ราชบุรุษขึ้นไปนำลง
มาเถิด พระเจ้าข้า”