ข้อความต้นฉบับในหน้า
ปรัชญุตันสมาธิสุตรหรืออธิปวาสุตร และอีกพระสูตรหนึ่งที่ไม่ปรากฏชื่อในสมบูรณ์สูตร ปรัชญุตันสมาธิสุตร กล่าวถึงการ(view)พระควบคู่กันไปกับการอบรมสัญฃา ว่าเป็นอภาวะและสุขุฃา แต่ในขณะเดียวกันนั้นความเป็นหนึ่งกับสิ่งที่เห็นคืพระพุทธเจ้า ซึ่งจะทำให้ได้เข้าถึงพระพุทธคุณอันไม่มียา ในวิชาชาญธรรมยามีคำสอนว่า “มีอะไรให้ถูกดู ๆ ดูไปเรื่อย ๆ อย่างสบาย ๆ โดยไม่ต้องคิดอะไรขี้สงสัย” ดูจะเป็นการอบรมสัญฃญในอภวะอยู่ในตัว เพื่อให้ปล่อยจากสิ่งที่เห็นแต่งนึ่งเป็นหนึ่งในนั้น ไม่ได้ปล่อยใจให้หลุดออกไปภายนอก จึงกล่าวได้ว่าการปฏิบัติแบบ “เห็นพระ” สอดคล้องกับหลักปฏิบัติของวิชาชาญธรรมกาย ส่วนในคัมภีร์ปฏิบัติธรรมหโยคาจารย์นั้น กล่าวถึงการวางใจที่ศรระ หรือระหม่อม มีลักษณะการบรรยายเหมือนมองเห็นภาพจากมุมบน¹⁵⁵ และ ยังกว่าเป็นการรวมตัวกันของกระแสแก้ใสจากศรีษะและจากสะดี องให้ คิดว่าอาจเป็นการบรรยายภาพที่เห็น แสดงความสัมพันธ์ระหว่างศูนย์กลางกายโดยประมาณกับกระหม่อม คัลายการเข้าไปถึงกายภายในโดยการเห็นจากมุมบน แต่แท้จริงแล้วคือการเข้า หรือการดูขึ้นจากกลางของกลางนั้นเอง ซึ่งหากเป็นดังกล่าวเช่นนั้นก็เห็นได้ว่า ภาพประสบการณ์ภายในที่บรรยายไว้สอดคล้องกับภาพเห็นของวิชาชาญธรรมอย่างไร้ก็ตามคัมภีร์ปฏิบัติธรรมหโยคาจารย์มีการขยายความเพิ่มเติมเชิงปรัชญาเข้าไปด้วย เช่นการเห็นเป็นรูปนิมิตของคุณธรรมต่างๆ มีความเป็นไปได้ที่ต่อมาสิ่งที่ขยายความเหล่านี้ ได้กลายมาเป็นนรรลภะหรือปรัชญามายาานที่มีความซับซ้อนมากขึ้น รวมทั้งบางส่วนของพิธีกรรมในที่สุด¹⁶ เนื้อหาในคัมภีร์ต่างๆ ที่กล่าวมานี้นับเป็นร่องรอยที่แสดงให้เห็นว่าเรื่องราวเกี่ยวกับธรรมกายและการปฏิบัติ