ข้อความต้นฉบับในหน้า
แหลักฐานธรรมภายในคัมภีร์พุทธโบราณ ๑ ฉบับรวมงานวิจัยโดยย่อ
ได้อย่างไรก็ตามมีพระญาณในภาพพระธรรมกายบางประการที่น่าสนใจเช่น วิชสมาบัติญาณ และอัปปภูตญาณ ผู้ประพันธ์คัมภีร์พระธรรมกายาที่ได้ให้ความหมายของพระญาณดังกล่าวไว้ในคาถายายยายความ จึงได้นำมาเสนอสำหรับต่อไปนี้
พระญาณของพระธรรมกายประการหนึ่งที่ควรแก่การศึกษา คือ วิชสมาบัติญาณ โดยเฉพาะคำว่า “วิชิ” การให้ความหมายของพระญาณนี้ในคาถาขยายความเริ่มต้นด้วยการกล่าวถึงซึ่ง 10 ตระกูลได้แก่ กาฬาะ คงเคยยะ จนถึง อุปสะละ และฉันท์ทันต์ โดยที่ฉันท์ทันต์จะเป็นช้างมีกำลังมากที่สุด คือมีกำลังเป็น 10 เท่าของช้างอุโสบะ การบรรยายถึงกำลังของช้างเป็นการบอกยว่าวิชิของพระพุทธเจ้ามีกำลังมากเท่ากับช้างฉันท์ 10 เชือก ส่วนคำว่า “วิชิ” นั้นในคัมภีร์รับธัมภิมพนบเทพชุมพูนุ่มให้ความหมายว่าเป็นพลังของ “นารายณ” หรือ “นารายณะ” ซึ่งก็ได้ให้คำจำกัดความเพิ่มเติมไว้ว่่า เป็นรัศมีที่โชติช่วง ดังนั้น “วิชิ” ในที่นี้จึงหมายถึงกำลังของรัศมีที่โชติช่วง ศพท์คำว่า นารายณ ใช้ในลักษณะคุณศพท์ที่ว่า ไป มีไว้ส่องถึงเทพเจ้าใด
ส่วนคำว่ Aggregative คัมภีร์อธิบายว่า เป็นญาณที่เกี่ยงจากลานสมาบัติ ผลสมาบัติ และนิรามสมาบัติ และกล่าวต่อไปว่าสามาถิติญาณคือสัพพุทยญาณ ทั้งนี้เพราะสมาบัติ ผลสมาบัติ และนิรามสมาบัติได้รวมอยู่ในสัพพุทยญาณ เมื่อกล่าวโดยรวม วิชสมาบัติญาณจึงเป็นญาณแห่งความรู้แจ้ง ที่เกิดขึ้นจากอาณสมาบัติ ผลสมาบัติ และนิรามสมาบัติ มีรัศมีโชติช่วงเป็นอย่างยิ่ง และเป็นพระอุณโลมของพระธรรมกาย
(เลขหน้า 176) ดร.กิจกชัย เอื้อเกษม