ข้อความต้นฉบับในหน้า
หลักฐานธรรมภายในคัมภีร์พุทธโบราณ ๑ ฉบับรวมงานวิจัยโดยอโย
"เกิดมาว่าจะมาหาแก้ว พบแล้วไม่จำเกิดมาทำไม...." นอกจากนี่ยังมีดวงแก้วต่างๆ ซึ่งอาจรวบรวมเสนอได้ดังนี้ ผลจากการปฏิบัติสมาธิภาวนานั้น ทางคัมภีร์ที่ศึกษาอยู่ได้เรียกขานและบรรยายในรูปแบบหนึ่งว่าในขณะที่ได้ธรรมสุขาณสุขมาลากเห็นเป็นแสงดาวก็จะได้ชื่อว่า "สงสัธนะ" หากเห็นเป็นแสงเดือนก็จะได้ชื่อว่า "ธรรมรัตนะ" และหากเห็นเป็นแสงอาทิตย์ก็จะได้ชื่อว่า "พุทธรัตนะ" ซึ่งต่างจากความหมายของรัตนะต่างๆ ทรงปิติที่ตราบังกันทั่วไป คัมภีร์พระญาณภูมิกล่าวถึงสิ่งที่เป็นผังให้มีการเกิดว่าคือ "ดวงจิตสงฮ" สงห์หรือพระสงฆ์ในที่นี้มีความเกี่ยวข้องกับ "ดวงแก้ว" ที่กล่าวไว้ข้างต้นโดยตรง ซึ่งสามารถทราบได้จากข้อความในคัมภีร์ว่าระพันธานว่า เมื่อรู้จักดิน น้ำ ไฟ ลม ก็รู้จักอากาศก็รู้จักพระสงฆ์แส จักได้มินนท์พระสงฆ์มาบังสุกะตัวเมื่อดายให้หาทางรู้สันตัว อยู่ และได้นำไปเกิดในดวงแก้ว...อันว่าว่าได้ไปสู่บายนรก นั่น เห็นว่ามีมินนท์พระสงฆ์มาบังสุกตัวแล้ว เมื่อสงฆ์เมื่ รักษาอยู่ให้ตื่นด้วยเดชสงฆ์นี้แล และข้อความว่า "พระพุทธเจ้า...ย่อมตั้งอโลมเสวยธรรม...สร้าง กุศลเมื่อพระสงฆ์อยู่" และอีกข้อความในคัมภีร์เดียวกันว่า "อากาศรอง พระพุทธเจ้าไว้ ครับว่าอากาศนับได้แล้ว พระธรรมเจ้าพุทธเจ้าก็หา ปได้แล้ว...อากาศนั้นคือพระสงฆเจ้า" ข้อความที่ยกมาแสดงเหล่านี้บอก ให้ทราบว่าพระสงฆ์มีหมายถึงพระสงฆ์สาวกหรือสมมุติสงฆ์ใดๆ แต หมาย ถึงสิ่งที่หล่อเลี้ยงให้ชีวิตดํารงอยู่ในร่างกายได้ แนวความคิดนี้คล้ายคลึงกับ