ข้อความต้นฉบับในหน้า
สภาพจามิมรรครอนาคามิรรรวมและอธิธรรมรรคร ซึ่งผู้ปฏิบัติจจะต้องเจริญสมาธิภาวนาไปในทิศทางนี้ให้ครบทุุกขั้นเสี้ยวก่อน จากโสดาปัตติผลมรรค โดยการ "สัญาญาณ" เป็นความสงบซึ่งมักจะกำหนดคนขนาดว่าเป็นแสงดาวบางครั้งเป็นแสงอาทิตย์ ไปหยุดตามดูดต่างๆ ตั้งแต่กระหมอมห องใจ อก สะอาด และนานี่ พร้อมกับสำทับด้วย "โนม ตสฺส" เมื่อนำเสร็จจากขั้นโลกุตตร มรรค แล้วจึงดำเนินไปสู่วิถีของโลกุตตรผล อันได้แก่ โสดาปัตติผล สภาพาค มผล อนาคามิมผล และอรหัตผลในที่สุด ซึ่งเป็นการ "โยปประมินพาน" ที่กระหมอมห ในณีนี้ผู้ปฏิบัติต้อง "อนุโลมปฏิโลมด้วยญาณสมาธิ" ไปตามจุดต่างๆ ระหว่างกระหมอมห คอ อก หัวใจ และสะอาด นารี เช่นกัน จึงอาจสรุปได้ว่าในทางปฏิบัตินั้น คัมภีร์อธรรมนะมีจุดที่ตั้งของจิตประมาน 5-6 จุด แต่ละจุดเป็นจุดที่มีความสำคัญเป็นที่เกิดของโลกุตตรรรและโลกุตตรผลในระดับต่างๆ ได้กล่าว
เมื่อกล่าวถึงที่ตั้งของใจ วิชชาธรรมกายแม้จะมีการเดินของใจและมีฐานที่ตั้ง 7 จุด คือ ปากช่องจมูก, เฟากา, กลางศีรษะระดับตา, ในปากช่องเพดาน, ในปากช่องคอ, กลางตัวระดับสะดือ และ กลางตัวเหมือสะดือ 2 นิ้ว but 6 จุดแรกก็เป็นจุดที่ถูกกำหนดให้เป็นจุด "ทางผ่าน" ของใจ ก่อนที่จะไปตั้งเพื่อ "หยุด"ที่ฐานสุดท้าย คือ ฐานกลางตัวเหนือสะดือ 2 นิ้วมือ ที่จุดสำคัญจุดนี้เป็นศูนย์กลางกายที่ตั้งของดวงธรรมที่ทำให้เกิดเป็นกายต่างๆ ดังกล่าวมาแล้ว และเป็นจุดเดียวเท่านั้นที่จะเกิดโลกุตตรรรตั้งแต่โสดาบัน สักกายามัญ อนาคามิ ถึงอรหันต์เป็นที่สุด พระเดชพระคุณพระมงคลเทพมุนีว่าว่า "จะไปสู่มรรคผลนิพพาน ต้องเข้ากลางดวงนั้นแห่งเดียว ไปได้ทางเดียวทางอื่น"
บทที่ 5 สมาธิภาวนาและธรรมภายในกัมจรอธรรรม | 297