ข้อความต้นฉบับในหน้า
หลักฐานธรรมภายในคัมภีร์พุทธโบราณ 1 ฉบับรวมงานวิจัยโดยอ้อย
ภายโดยไม่มีจิตคิดในแม่มุมต่างๆ เกี่ยวกับกาย" ตามเห็นเวทนาในเวทนา โดยไม่มีจิตคิดไปในแม่มุมต่างๆ เกี่ยวกับเวทนา" เป็นต้น ซึ่งตรงกันกับคำสอนในวิชชาธรรมภายที่อัศจรรย์หยุดนิ่งและเห็นเข้าไปตามลำดับ หาได้เป็นการใช้ความคิดพิจารณาแต่เองใด ดังที่พระเดชพระคุณพระเทพญาณมหามุ่งกล่าวสอนอยู่เสมอๆ ว่า "ให้นเป็นผู้ดูได้เป็นผู้กำกับหรือผู้แสดง" และดังที่พระเดชพระคุณพระมงคลเทพมุนีแปลคำว่า "อนุโมทสี" อย่างตรงตัวว่า "เห็นเนืองๆ" ดังข้อความที่คัดมานี้
อิทธิ ภิกขเว ภิกขุ ถาย ภายนาปสส วิรติ ด่อนภิกษุทั้งหลายที่ศึกษาพระธรรมวินัยของพระตถาคต์เจ้า เห็นภายในเนืองๆ นั้นเป็นไงเล่า........ เห็นภายในเนืองๆ อยู่ ถ้าเห็นเข้าแล้วทำให้อาตม์ เพื่อเทียว เพื่อให้เห็นอยูเสมอๆ นั้น ไม่ผลอที่เดียว อาตม์ สมุท ชาโน รัฐอปคอมอยู่เพรียรแล้วก็ร้อนรอบ สิมา มิตติด้วยไม่ผลอร้อนรอบคอไม่ผลอ ถินยุ โลโก อิทธิญา โทมนัส สุ คอยกำจัดอิทธิญา ความเพ่งเฉพาะอยากได้ และความโทมนัสเสียใจ ....... ไอ้ใจเสียใจนี้แหละอย่าให้เล็ดลอดเข้าไปได้ดีเดี๋ยว... ข้อที่สองคือ เวทนาสุ เวทนา บุคคลสี วิรติ อาตมา สมุทชาโน สิมา วิเนยู โลโก อิทธิญาโทมนัสเห็นเวทนาในเวทนาเนิองๆ อยู่ มีความเพียรเป็นเครื่องเผาหล่อยให้เราร้อนมีความรอบคอบ มีสติบังไม่ฟั่นเฟือน นำอิทธิญาโทมนัสในโลกออกเสีย ไม่ให้หลอดเล็ดเข้าไปได้ นี้ส่วนเวทนา ฯลฯ
126 | ดร.กิ้ชัย เรือเกรม