ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - พระธัมมาปฏิญาณแปล ภาค ๓ - หน้าที่ 108
ท่านแม็คว่า "บัดนี้เราจักไม่รับ" ดังนี้แล้ว ก็ยังทำจิตให้อ่อนใด้
ด้วยทำในใจว่า "ช่างเถิด, กรรมเห็นปลนนี้ อันเราไม่เคยทำ,
การที่รายจวัดของตนให้สิญไปสมาคร" ดังนี้แล้ว เข้ไปหา
พระเณร กล่าวว่าท่านผูเจริญ ท่านจงให้บาตรและจีวร."
พระมหาเณรนนี้ นี้นิวัตวา ว่า "จงไป คนหัวถืือ, คุณไม่ควร
จะรับบาตรและจีวรของฉัน," เมื่่อพระอุปะนวก่านกล่าวว่า "จริง
ละขอรับ, ถึงผมก็ติดแล้วว่า ถ้าไม่รับบาตรและจีวรของท่าน,"
กล่าวว่า "ท่านผู้เจริญอายุใหม่ ทำไม ท่านจึงคิดว่า "ความเกี่ยวข้อง
อะไร ๆ ในวิหารนี้ของเรามีอยู่ ?" แม้พระอนุเณรนนี้ก็ดกล่าวว่า
"ท่านผู้เจริญ ก็ทำไม ท่านจึงสำคัญอย่างนี้ว่า "ความเกี่ยวข้องอะไร ๆ
ในวิหารนี้ของเรามีอยู่ ? นี่เป็นวิหารของท่าน," แล้วถือบาตรและ
จีวรออกไป. ถึงพระมะเณรนอกนี้ก็ถือเอาไป (เหมือนกัน)
พระเณรทั้ง ๒ นั้น ไม่ไป-แม้โดยหนทางเดียวกัน, รูปหนึ่งถือ
เอาหนทางโดยประตูด้านฉิมทิศ, รูปหนึ่งถือเอาหนทางโดยประตู
ด้านปรัชญทิศ. พระธรรมกถิกกล่าวว่า "ท่านผูเจริญ อย่าทำอย่างนี้,
อย่าทำอย่างนี้" เมื่อพระเณรกล่าวว่า "จงหยุดเดี๋ยว คุณ," แล้วกลับ.
ในวันรุ่งขึ้นพระธรรมกถิกนั้น เข้าไปบ้านใกล้เคียง, เมื่อพวกมนุษย์
กล่าวว่า "ท่านผูเจริญทั้ง ๒ ไปไหน ? ขอกรับ," กล่าวตอบว่า
"คุณ อย่าถามเลย, พระผู้เป็นเจ้าผู้ถึงสกุจของพวกท่าน วานนี้
ทำการทะเลาะกันแล้วออกไป, ฉันแจ้งจออยู่ไม่สามารถจะให้กลับ
๑. อนุจฺฉา เป็นกริยาปรนัยนัย.