ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - พระธรรมปทุมจิตกถาแปล ภาค ๓ - หน้าที่ 119
อัศจรรย์ คือ รกะ โทะทะ และโมนะ จึงถึงทุกนี้ การที่พวกเธอตัดป่านเสีย ควร พวกเธอจักเป็นผู้หมดทุกข์ได้ด้วยอาการอย่างนั้น"
แล้วได้ทรงภูมิปัญญาคาหลักนี้ว่า :-
"ท่านทั้งหลายจงตัดกะลุดุจดวงไฟ อย่าตัดต้นไม้,
ภัยยอดเกิดแต่กะลุดุจดวงไฟ ภิญฑุ้งหลาย ท่าน
ทั้งหลาย จงตัดกะลุดุจดวงไฟ และดูหมู้มไม้ตั้งอยู่
ในป่าแล้ว เป็นผู้ไม่มีกะลุดุจดวงไฟเกิด; เพราะ
กะลุดุจดวงไมตั้งอยู่ในป่า ถึงมีประมาณนิดหน่อย
ของนรชน ยังไม่ขาดในนรีทั้งหลายเพียงใด,
เขาเป็นเหมือนลูกโคที่ยังกินน้ำนม มีปฏิพันธะใน
มาตรด่านั้น"
[แก้.id]
บรรดาเปล่านั่น กล่าวว่า มา รุกฆ์ ความว่า เมื่อองค์พระศาสดา
ตรัสว่า "ท่านทั้งหลายจงตัดป่า ภิญฑุ้งนั่นผู้บังคับไม่มากนะ
ความคิดในความเป็นผู้ใดจะตัดดั้นไม่ว่าจะ" พระศาสดา
ย่อมให้พวกเรืื่อมิดเป็นต้นตัดป่า;" เมื่อเป็นเช่นนั้น พระศาสดา
เมื่อจะทรงห้ามภิญฑุ้งนั่นว่า "เราพูดคำนั้น หมายเอาป่า คือกิเลส
มีจะเป็นต้น (ต่างหาก), มีได้พูดหมายเอาต้นไม้ จึงตรัสว่า
"อย่าตัดดั้นไม้."
บทว่า วันโต ความว่า ภัยแต่สัตว์ร้ายมีสีจะเป็นต้น ย่อมเกิด
จากป่า ตามปกติ ฉันใด; แม้ถิยะชาติเป็นต้น ย่อมเกิดจากป่า คือสัส