ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโคม - พระบิฑูรปัณทยุตสาคอร ภาค ๑ - หน้าที่ ๒๓๒
【หยั่งถิ่นเคยเป็นมารดาของสนามสามเสน】
กีมารดาของเธอดิเกลเป็นหยั่งถิ่นในอดีตเป็นลำดับ นางมาร
กับเทวดาทั้งหลาย ฟังธรรมแล้ว (เมื่ออธิบายมา) ส่วนบุญที่
สามารถให้ ย่อมกล่าวว่า "ฉันอนุมนา โธน พ่อ" ก็ธรรมนาภิญฐ
ทั้งหลายผู้สมบูรณ์ด้วยศีล ย่อมเป็นที่รักของโลกพร้อมทั้งท้าวโลก;
เพราะฉะนั้น พวกเทวดาที่มีความละอาย มีความเกรงใจสนามเสน
ย่อมสำคัญเธอเหมือนมหาพรหม และกองพลัง และย่อมเห็นนาง
หยั่งถิ่นนี้เป็นที่น่ารำคาญ เพราะเธอในสนามเสน; ในสนามทั้งหลาย
มีสมยปิธรรมและสมยยึกยึดประตูคนเป็นต้น อนุมายทั้งหลายย่อม
ให้อสนะดี น้ำที่ดี อาหารที่ดี แก่นางหยั่งถิ่น ด้วยคิดว่า "นางหยั่งถิ่น
ตอนนี้ เป็นมารดาของสนามสามเสน" ย่อมทั้งหลายแม้ก็ศักดิ์ใหญ่
เห็นนางหยั่งถิ่นนี้แล้ว ย่อมหลีกทางให้ ย่อมลูกนั่งข้างถนะแยะ
【หยั่งถิ่นเข้ากายสนามเสน】
ครั้นสนามเสนจนถึงความเจริญ มีอิทธียิ่งแก่กล่า ถูกความไม่
ยินดีอันยิ่งบังบัง ไม่สามารถจะบรรเทาความไม่ยินดีสลงได้ ปล่อยผม
และเลิ่นไร้ยา มีนุ่มและผ้าห่มอมแมม ไม่แจ้งใคร ๆ ห้อยบาตร
จิวขึ้นแล้ว ได้ไปเรือนของมารดาคำพังคนเดียว อุบาสกนี้บุตร
แล้วไว้ กล่าวว่า "พ่อ ครั้งก่อน น้อมในที่นี้พร้อมกับอาจารย์
และอุปฌายะ หรือพร้อมกับกิณฑูมและสนามเสน เพราะเหตุไร
"๐ ถามว่า ปติตู นี้ไป บทว่า อนุโมทนิตุ หรือ อนุโมทมาณา พึงตคหลังไปเสีย
อีกอย่างหนึ่ง บทว่า ตาย พึงมีในที่แห่งนั้นมาแล้วว่า สนามเสน.