ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - พระจันทร์ลับถูกฉายแผ่ ภาค ๑ - หน้าที่ 169
ที่เขาได้แล้ว และเสียงคนตรีมีดินเป็นต้น ที่หายประกอบแล้ว, เมื่อ
พระราชาเจิดพิ้นดีรอ แจ๋พระองค์, และข้าราชบริพารทั้งหลาย
มีอุปราชและเสนาบดีเป็นต้นของพระราชาหล่านั้น ก็มีจำนวนเท่านั้น
เหมือนกัน ซึ่งอยู่ในกรุ้งไกล้ ประดับประดาแล้ว ก้าวลงสู่
ถนนเพื่อสูญการจะเล่นนักรบ, จงกรม (เดินกลับไปกลับมา) อยู่
ที่จงกรมใหญ่ ประมาณ 60 คอ คอ เห็นพระจันทร์เต็มดวงเด่นอยู่ใน
กลางท้องฟ้า ยืนพิงแผ่นกระดาน ณ ที่สุดจงกรมแล้ว มองดูด้ามภาพ
ประดับใบที่เขาทังไว้ในป่า เพราะความที่คนวันแล้วจากผ้าสำรับ
โพงและเครื่องอังการ คิดอยู่ว่า "คนอื่นที่ลากว่าวรา มู้อยู่หรือ
หนอ ?" แม้จะประกอบด้วยคุณมีการอยู่เป็นวัดเป็นต้นตามปกติ ใน
ขณะนั้น ถูกความไม่ยินดีนี้บีบคั้นแล้ว จึงกล่าวอย่างนั้น
[เทวดากล่าวกาตาให้คิดเห็นสงสาร]
ท่านได้รับคาถนี้ ซึ่งเทวดาสูงอยู่ในไพรสณฑ์นั้น กล่าวแล้วว่า :-
"ท่านผู้เดียว อยู่ในป่า เนเหมือนหนีเทิงไว้ใน
ป่า, ชนเป็นอันมาก ยอ่ม
กระหยิ่มต่อท่านนั้น
ป่า, ชนเป็นอันมาก ยอ่มกระหยิ่มต่อท่านนั้น
ราว่าว่าอพสัตว์วรรณ กระหยิ่มต่อชนทั้งหลาย
ผู้ไปสู่วรรณี จะนั้น.."
ด้วยความประสงค์ว่า "เราอั้งกูญนี้ให้สงสาร" ในวันรุ่งขึ้น
เข้าไปฝ่าพระศาสดา ถวายบังคมแล้วนั่ง.
[พระศาสดาทรงแสดงทุกข์ ๕ อย่าง]
พระศาสดา ทรงทราบเรื่องนั้นแล้ว ประสงค์จะทรงประกาศ