ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค ๕๕ มังคลัตถทีนี่แปล เล่ม ๔ หน้า ๕๙
ถือเอาผ้าบังสุกุล ที่เขาเอ่ (สรีระ) นางปุณณทาสีทิ้งแล้ว จากป่าช้า ทรงทำกรรมที่ทำได้ฉวยอย่าแล้ว."
พระมหาเถระ คิดว่า "ความศรัทธาของพระเถระผู้ก็ผังบังสุกุล เป็นวัสดุ บริสุทธิ์แล้ว." แม้พระเถระผู้ก็ผังสุกุลเป็นวัสดุ ก็ยืนอยู่ ณ ที่นั้นนั่นเอง เจริญวิปัสสนา บรรลุผลทั้ง ๓ แล้ว ถือเอาผ้าสุกุล ผืนนัน กระทำเป็นจิวร่มแล้ว ไปสู่จินต์จันทนทรวิหาร ได้บรรลุ พระอรหันต์เป็นผลที่ได้แล้ว.
[๑๐๑] กิริยาที่ภูกุเมื่อจะไปเพื่ออธิษฐาน ไม่ค้อว่า "เรา จำได้ในที่ไหน ?" ไปโดยมีพระมุ่งมั่นฐานเป็นใหญ่เท่านั้น ชื่อวา คมสันโดน (สันโดนในการไป). ก็การภูกุเมื่อจะจะแสงหา (วิธี ) ไม่แสงหามัญญธรรมดา พากญูผู้มีความละอายมีศีล เป็นที่รักไปแสงหา ชื่อว่า ปริเสสนันโด (สันโดนในการแสงหา). การที่ภูกุแสงนำออยู่ดังนั้น เห็นวิจารที่ทยานามแม้ก็ไกล ไม่ตรีกอย่างนี้ว่า "วิจรนั้น จักเป็นที่ชอบใจ วิจรนั้น จักไม่เป็นที่ชอบใจ" แล้วยินดีว่าจิราที่หยาบหรือละเอียดเป็นต้น ที่ตณได้แล้ว อย่างไรเท่านั้น ชื่อว่า ปฏิลาเสสนันโด (สันโดนในการได้แสงพา). การที่ภูกุมแม้มืออถือเอจิราที่ตนได้แล้วอย่างนั้น ยินดีว่าจิราสึกว่า เพียงพอแก่ตนเองว่า "ผำมีประมาณเท่านี้ จักมีเพื่อจิราครบ ๒ ชั้น ผำมีประมาณเท่านี้ จักมีเพื่อจิราครั้งเดียว" ดังนี้เท่านั้น ชื่อว่า มัดต-ปฏิภูคาหลั่นโด (สันโดนในการถือเอาแต่พอดี). อันยัง การที่ภูกุแสงหาจาวอยู่ ไม่ผิดว่า "เราจำได้ว่าจรเป็นที่ชอบใจ ที่ประตูเรือน