การวิเคราะห์ความหมายของ 'เทวา' ในอรรถกถาสังศิตสูตร มังคลัตถทีปนีแปล เล่ม 4 หน้า 120
หน้าที่ 120 / 239

สรุปเนื้อหา

ในอรรถกถาสังศิตสูตร การใช้คำว่า 'เทวา' มีนัยยะลึกซึ้งที่เกี่ยวข้องกับความมืดที่เป็นที่ไปของบุคคลผู้หนึ่ง ผู้ที่เกิดในตระกูลชั้นต่ำ จำแนกตามบุญฤทธิ มีอยู่ 3 จำพวก คือ ผู้ที่เกิดจากกระดูกต่ำ, ผู้ที่มีความชื่นชม และผู้ที่มีอัตภาพสมบูรณ์ ซึ่งมีระยะทางไปในเบื้องหน้าตามความเข้าใจของพระอรรถกถาจารย์ โดยชี้ให้เห็นถึงลักษณะของการดำรงอยู่ในความมืดและบุญกรรม.

หัวข้อประเด็น

-การวิเคราะห์ความหมายของเทวา
-ความสัมพันธ์ระหว่างบุญฤทธิและตระกูล
-บทบาทของความมืดในชีวิตมนุษย์
-การเกิดในกระดูกต่างๆ

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ประโยค มั่งคลกๆที่นี้เป็นเปล เล่ม ๔ หน้าที่ 120 อุปกรณ์นั้น คือเช่นนั้น." (๓๑๖) อรรถกถาสังศิตสูตรว่า " เทวา โถม แปลว่า เป็น ผู้มีลิ้น. เทวา ตมปราโน มีวิเคราะห์ว่า ความมืดนี้นั่นเองเป็นที่ ไป คือ เป็นทางไปในเบื้องหน้าของบุคคลนั้น เหตุนี้บุคคลนั้น ชื่อว่า ตมปราโน(ผู้มีความมืดเป็นที่ไปในเบื้องหน้า) ในบท ทั้งปวง ก็พูดนารบอรอย่างนี้. ก็บรรดาบุคคล 3 จำพวกนี้ บุคคลจำพวกนี้ เกิดในกระดูกอันตาเป็นต้น ซึ่งเป็นตระกูลชั้นต่ำ ห ลเลื่องชี้ฝีมือโล่ (ทั้ง) ย่อมบำเพ็ญบุญฤทธิ ๓. บุคคล จำพวกที่ ๒ ก็เป็นผู้ชื่นนั่น (แต่) บำเพ็ญบุญฤทธิ ๓. บุคคลจำพวกที่ ๓ เกิดในกระดูกบุตรธีมเป็นต้น ซึ่งเป็นตระกูลโอฬาร มีข้าวน้ำมาก มีอัตภาพสมบูรณ์(แต่) บำเพ็ญบุญฤทธิ ๓. บุคคลจำพวกนี้ ก็เป็น ผู้เช่นนั้น(ทั้ง) บำเพ็ญสุริต ๓." ฤ ก็กล่าวสังศิตสูตรนั้นว่า " เทวา ตม ความว่า ชื่อว่า เป็นผู้มี เพราะความเป็นผู้ไม่ปรากฏ. เหตุนี้ พระอรรถกถาจารย์ จึงกล่าวว่า อนุภารกูโฏ ๓. ว่า อนุภารกูโฏ ความว่า เป็นผู้ดู ความมืด เป็นแล้ว คือ เกิดแล้ว, อีกอย่างหนึ่ง ถึงความตั้งลงในความมืด โดยความเป็นผู้ไม่ปรากฏ. กล่าวคือ ตมเมว ความว่า ความมืดมีลักษณะงดงามกล่าวแล้วนั่นเอง เป็นที่ไป คือ เป็นทางไป ได้แก่ เป็น ที่ตั้งบ้างหน้า คือเบื้องหน้า ด้วยกล่าวว่า นิจ อา ป ฏ ณิ พุทธตุตวา นี้ พระอรรถกถาจารย์ ย่อมแสดงความที่บุคคลนั้นเป็นผู้มิด. ด้วยคำ ๑. สุ วิ. ๓/๑๒๔๓
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More